ความวิตกกังวลมักเกิดจากความเครียด เพราะการใช้ชีวิตในสังคมที่มีความกดดันสูง หน้าที่การงานที่กำหนดกดดันรวมถึงเรื่องอื่น ๆ ที่แต่ละคนจะต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลได้มากมาย
นอกจากการพยายามผ่อนคลายความเครียดด้วยการทำจิตใจให้สงบหรือทำกิจกรรมที่ชอบ การเลือกกินอาหารก็สามารถช่วยได้เช่นกัน จากงานวิจัยหลายชิ้นได้ชี้ให้เห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกันระหว่างอาหารที่เรากินและอารมณ์ของเรา และการเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารสูงสามารถช่วยให้เรารู้สึกสงบและลดความวิตกกังวลให้น้อยลงได้
บ่อยครั้งที่ความเครียดเกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในร่างกาย ซึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ สามารถช่วยป้องกันและลดอาการซึมเศร้ารวมถึงความวิตกกังวลได้ การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แข็งแรง และมีจิตใจที่แจ่มใส
สารโพลีฟีนอลและไฟเบอร์ตามธรรมชาติช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าและรู้สึกวิตกกังวลน้อยลง และน่อนว่าหากใครที่กำลังมีความวิตกกังวล รูสึกไม่สบายตัวหรือรู้สึกว่าตนเองนั้นเข้าใกล้ภาวะซึมเศร้า ลองหาอาหารที่อุมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมารับประทานก็จะช่วยทำให้อาหารดีขึ้น
6 อาหารช่วยลดความวิตกกังวล
1. บลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารแอนโธไซยานิน สารชนิดนี้เป็นสารประกอบที่ทำให้บลูเบอร์รี่มีสีฟ้าและยังถูกจัดให้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยลดความเสียหายของร่างกายที่เเกิดจากอนุมูลอิสระและลดอาการอักเสบ ซึ่งทั้ง 2 สาเหตุนี้มีส่วนที่ทำให้เกิดความวิตกกังวล
2. ช็อกโกแลต
เมื่อเรารู้สึกเศร้าใจ ช็อกโกแลตอาจเป็นอาหารที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ เนื่องจากสารประกอบฟลาโวนอลในโกโก้นั้นมีประโยชน์ ช่วยในการป้องกันระบบประสาทและมีประโยชน์ในด้านการช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้รู้สึกดีขึ้น ช่ยลดความเศร้าและลดความวิตกกังวลได้
3. ขมิ้น
ขมิ้นถือเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความวิตกกังวลได้ รวมถึงยังมีฤทธิ์ในการช่วยต้านการอักเสบ และก็ยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระด้วย เนื่องจากสารเคอร์คูมินซึ่งเป็นสารประกอบที่พบได้ในขมิ้นเท่านั้นที่สามารถช่วยให้ขมิ้นมีคุณสมบัติในการลดความเครียดและลดการอักเสบ
อาหารสุขภาพ ช่วยลดความวิตกกังวล ช่วยคลายเครียด อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/