เบาหวานเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุจะมีการเสื่อมของตับอ่อนที่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งใช้ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้อายุที่มากขึ้นอาจทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน หรือทำให้ฮอร์โมนอินซูลินออกฤทธิ์ได้น้อยลง ความสำคัญของการรักษาโรคเบาหวาน คือ ถ้าควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังต่างๆ เช่น อาการชาที่ปลายเท้า ตามองเห็นไม่ชัด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดแดงปลายเท้าตีบ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดแผลที่เท้า ส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานส่วนหนึ่งต้องสูญเสียอวัยวะ
บางส่วน นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรอีกด้วย ดังนั้นการรักษาเบาหวานจึงประกอบไปด้วย การควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม การใช้ยาลดน้ำตาล และออกกำลังกาย
สำหรับการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ มีข้อควรระวังมากกว่าในวัยอื่นๆ เนื่องจากเป็นวัยที่กล้ามเนื้ออ่อนแอกว่าวัยอื่น การทรงตัวที่อาจทำได้ไม่ดีเท่ากับวัยอื่น ที่สำคัญผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย เช่น โรคความดันโลหิต ที่อาจเพื่มสูงขึ้นเมื่อออกกำลังกาย จึงต้องควบคุมความดันให้อยู่ในระดับปกติก่อน นอกจากนี้ผู้สูงอายุควรออกกำลังกายด้วยท่าง่ายๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
ทำให้ร่างกายใช้กลูโคสได้ดีขึ้น มีปฏิกิริยาต่ออินซูลินดีขึ้น เป็นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดส่งผลให้ลดขนาดอินซูลินที่จะใช้ หรือในบางรายที่ระดับน้ำตาลไม่สูงสามารถงดการให้อิซูลินได้
ลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือดแดงแข็ง เพราะช่วยลดการรวมตัวของเกล็ดเลือด
ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานในผู้ป่วยโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และผู้มีประวัติคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน
คลายความเครียด และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ข้อควรระวังและข้อควรปฎิบัติในการออกกำลังกาย
ปรึกษาแพทย์ และได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์อย่างละเอียด
ผู้ป่วยต้องมีป้ายแสดงตัวว่าเป็นเบาหวานติดตัวไว้เสมอ สำหรับการออกกำลังกายนอกบ้าน
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำระหว่าง และหลังการออกกำลังกาย
งดการออกกำลังกายถ้าระดับน้ำตาลในเลือด มากกว่าหรือเท่ากับ 250 mg/dl ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่1 และไม่เกิน 300 mg/dL ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
ถ้าระดับน้ำตาลต่ำกว่า 90 mg/dl ให้รับประทานอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต ก่อนออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง
งดการออกกำลังกายในช่วงที่อินซูลินออกฤทธิ์สูงสุด โดยปรึกษาทีมผู้รักษา
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอินซูลินอย่างน้อง 1 ชั่วโมง เนื่องจากอิซูลินจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดเร็วเกินไป
ตรวจน้ำตาลก่อน และหลังออกกำลังกาย
ตรวจดูว่ามีบาดแผลที่เท้า หรือการอักเสบอื่นๆ หรือไม่
เลือกรองเท้าให้เหมาะสม และใส่ถุงเท้าทุกครั้ง
ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดผลร่วมกับการปรับขนาดยาอินซูลิน และอาหารอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
ควรออกกำลังกายในเวลาเดียวกันในแต่ละวัน เพื่อป้องกันระดับน้ำตาลขึ้นๆ ลงๆ
หลีกเลี่ยงท่าออกกำลังกายที่มีการเกร็งหรือเบ่งมากเกินไป ในบางรายอาจทำให้ความดันโลหิตสูงได้โดยเฉพาะท่าที่ต้องกลั้นหายใจ
ออกกำลังกายในผู้สูงอายุที่มีโรคเบาหวาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/