ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านหมุน อาจเสี่ยงโรคร้าย อันตรายกว่าที่คิด  (อ่าน 5 ครั้ง)

airrii

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
    • ดูรายละเอียด
อาการบ้านหมุน หรือการเวียนศีรษะ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย และเป็นอาการที่หลายคนก็เคยประสบกับตัวเอง ทำให้หลายคนมองว่าอาการบ้านหมุนนั้นเป็นอาการทั่วๆ ไป ไม่มีอะไรร้ายแรง แต่ความจริงแล้วอาการบ้านหมุนเป็นสัญญาณที่สามารถบ่งบอกถึงโรคร้ายต่างๆ ได้

เวียนศีรษะ กับ เวียนศีรษะบ้านหมุน ต่างกันอย่างไร?
อาการเวียนศีรษะ กับ เวียนศีรษะบ้านหมุน ต่างกันตรงที่ อาการเวียนศีรษะ เป็นคำที่บ่งบอกถึงอาการที่ค่อนข้างกว้าง โดยมีลักษณะอาการตั้งแต่มึนศีรษะ งุนงง โคลงเคลง หวิวๆ รวมถึงมีอาการยืนหรือเดินทรงตัวไม่ดี โดยอาการนี้มักมีสาเหตุมาจากสภาวะต่างๆ ที่ไม่เฉพาะเจาะจงไป ประกันสุขภาพ



ส่วนอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน หมายถึงแค่เฉพาะอาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุนหรือโคลงเคลงเท่านั้น ซึ่งอาการนี้มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของอวัยวะเกี่ยวกับการทรงตัวในหูชั้นใน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่คอยรับการทรงตัวสมดุลของร่างกาย

โดยเมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นจะทำให้มีอาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุนๆ รู้สึกว่ารอบตัวหมุน หรือตัวเองหมุนทั้งๆ ที่อยู่กับที่หรือไม่มีการเคลื่อนไหว และสำหรับรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หูอื้อ มีเสียงในหู ซึ่งอาการนี้มีความน่ากลัวอีกอย่างตรงที่ เมื่อเวียนศีรษะบ้านหมุนจะเสียการทรงตัว ทำให้เสี่ยงต่อการล้มหรืออุบัติเหตุต่างๆ ได้นั่นเอง

โรคที่เป็นสาเหตุทำให้เวียนหัว
อาการเวียนหัวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เพราะเป็นอาการที่ค่อนข้างกว้าง และสามารถเกี่ยวโยงไปได้หลายโรค ซึ่งหนึ่งในนั้น ได้แก่
1. โรคหินปูนในหูชั้นใน หรือ BPPV
ซึ่งหมายถึงโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในผู้ที่มีอาการเวียนหัวจากโรคทางหู เนื่องจากตะกอนหินปูนในหูชั้นใน เป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะสำหรับการทรงตัวของร่างกาย ซึ่งการเกิดตะกอนหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนเกิดจากการเปลี่ยนตำแหน่งของตะกอนหินปูนในหูชั้นในที่ผิดไปจากตำแหน่งเดิม

2. โรคเวียนศีรษะจากไมเกรน
สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยไมเกรน นอกจากอาการปวดหัวแล้วมักมีอาการเวียนศีรษะร่วมด้วย โดยจากสถิติอาการเวียนศีรษะนั้นพบร่วมกับอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ถึง 1 ใน 3 โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เป็นไมเกรนแบบมีอาการเตือน (Migraine with aura) ที่จะพบอาการเวียนศีรษะมากกว่ากลุ่มคนที่เป็นไมเกรนแบบไม่มีอาการเตือนถึง 2 เท่า

3. โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
เป็นที่ความผิดปกติของหูชั้นใน ที่ภาวะน้ำในหูชั้นในคั่งหรือมีความดันเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้อาการผิดปกติดังกล่าวอาจพบได้ในโรคของหูชั้นนอกหรือชั้นกลาง รวมทั้งโรคทางสมองและระบบเส้นประสาทก็ได้ ซึ่งผู้ป่วยในโรคนี้ควรไปตรวจเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง ซื้อประกันให้พ่อแม่



4. โรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
บางครั้งการเวียนศีรษะก็มาจากระบบหมุนเวียนโลหิตที่ผิดปกติ อาจเกิดจากความดันโลหิตต่ำ หรือความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคของหัวใจที่ล้วนส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว หน้ามืด หรือควบคุมการทรงตัวได้ยากเนื่องจากหัวใจไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอนั่นเอง

5. โรคที่เกิดจากความเครียด
หรือโรคทางจิตเวช ผู้ที่เวียนศีรษะด้วยสาเหตุนี้ จะเกิดอาการเวียนหัวอย่างมากเมื่ออยู่ในที่แออัด ที่แคบ หรือแม้กระทั่งในที่โล่ง ที่สูง ซึ่งอาการจะหายไปเมื่อไม่อยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว

เมื่อเกิดอาการเวียนหัว บ้านหมุนควรทำอย่างไร?
    * อันดับแรกเมื่อเกิดอาการบ้านหมุน ควรหยุดนั่งพัก หรือควรนอนพักสักครู่จนกว่าอาการจะดีขึ้น
    * ลำดับถัดมาให้หลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจไปกระตุ้นให้เกิดอาการแย่ลง เช่น การเปลี่ยนท่าเร็วๆ หรือการก้มหรือเงยคอนานๆ
    * พยายามนอนบนพื้นราบ และอยู่นิ่งๆ ไว้สักครู่ เพราะหากเดินอาจทำให้ทรงตัวไม่ได้ และเกิดการล้มได้
    * การรักษาในระยะยาว เช่น การออกกำลังกายบริหารอวัยวะด้วยท่าหรือเฉพาะจุด สำหรับคนที่ป่วยหรือมีอาการป่วยด้วยโรคนี้
จะเห็นได้ว่าเพียงแค่โรคเล็กๆ น้อยๆ ก็นำไปสู่โรคหรืออาการที่น่ากลัวและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนั้นเราจึงไม่ควรใช้ชีวิตอยู่กับความประมาท ควรรู้จักวางแผนชีวิตและสุขภาพในระยะยาว อย่างเช่นการซื้อประกันสุขภาพโรคร้ายแรง

สำหรับคนที่ป่วยด้วยอาการเล็กๆ น้อยๆ แต่ซ้ำๆ บ่อยๆ ก็ไม่ควรมองข้าม ควรเข้าไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด ไม่ควรชะล่าใจก่อนที่โรคเล็กน้อยเหล่านั้น จะกลายเป็นโรคที่ร้ายแรงเกินกว่าจะรักษาให้หายขาด


เมนู แกงเลียง เคียงรัก จากเชฟอ๊อฟ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย
คลิก



 

ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google