แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 44
1
งานฝีมือ การทำของตกแต่งผนังด้วยเชือกศิลปะแบบกำหนดเอง

การทำของตกแต่งผนังด้วยเชือกเป็นงานศิลปะที่สร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะคุณสามารถออกแบบลวดลายและเลือกใช้สีได้ตามต้องการ ลองดูไอเดียเหล่านี้เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานของคุณนะคะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

เชือก: เลือกเชือกที่มีขนาดและสีที่เหมาะสม เช่น เชือกฝ้าย, เชือกปอ หรือเชือกที่มีสีสัน

ไม้แขวนผนัง: จะใช้ไม้ท่อนกลม หรือกิ่งไม้ที่หาได้จากธรรมชาติก็ได้

กรรไกร

ไม้บรรทัดหรือสายวัด


ขั้นตอนการทำ

เตรียมเชือก: ตัดเชือกตามขนาดที่ต้องการ โดยความยาวของเชือกแต่ละเส้นจะขึ้นอยู่กับลวดลายที่คุณออกแบบ

มัดเชือกเข้ากับไม้: นำเชือกมามัดเข้ากับไม้แขวนผนัง โดยใช้เชือกมัดแบบห่วงคล้อง (Lark's Head Knot)


ออกแบบลวดลาย:

ลวดลายแบบง่าย: สามารถทำได้ด้วยการมัดเชือกด้วยความยาวที่เท่ากัน แล้วตัดปลายให้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยมหรือตัว V

ลวดลายแบบซับซ้อน: ใช้เทคนิคการถักเชือกต่างๆ เช่น การถักเปีย หรือการมัดเป็นปมในรูปแบบที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างลวดลายที่มีมิติ

ตกแต่งเพิ่มเติม: สามารถนำลูกปัดไม้ หรือพู่มาตกแต่งที่ปลายเชือกเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานศิลปะของคุณได้

เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็นำไปแขวนตกแต่งผนังได้ทันที งานศิลปะจากเชือกนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผนังบ้านดูมีชีวิตชีวา แต่ยังแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของคุณอีกด้วย

2
ข้าวกะเพราหมูยอ ทำขายเป็นอาชีพเสริม เมนูอาหารตามสั่งรสจัดจ้านเผ็ดร้อนทำง่าย วัตถุดิบน้อย

เมื่อพูดถึงอาหารริมทางของไทยหนึ่งในเมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือข้าวกะเพราซึ่งเป็นอาหารผัดกะเพราที่มีกลิ่นหอมและเผ็ดร้อน โดยแบบดั้งเดิมแล้วจะทำจากหมู ไก่หรืออาหารทะเล จานนี้ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่เข้มข้นและรสชาติที่น่าพึงพอใจ อย่างไรก็ตามข้าวกะเพราหมูยอเป็นอีกเมนูหนึ่งที่มีเอกลักษณ์และอร่อย โดยใช้หมูยอซึ่งเป็นไส้กรอกหมูสไตล์เวียดนาม

ข้าวกะเพราหมูยอเป็นอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย มีส่วนผสมหลักคือหมูยอ ใบกะเพรา พริก กระเทียม และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ นิยมเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ และอาจมีไข่ดาวหรือไข่เจียวเป็นเครื่องเคียง

หมูยอ คืออะไร?
หมูยอเป็นไส้กรอกหมูเวียดนามเนื้อเนียน แน่น และเคี้ยวหนึบเล็กน้อย ทำจากเนื้อหมูบดละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา พริกไทย และเครื่องเทศอื่นๆ หมูยอมักจะนึ่งหรือต้ม และมักเสิร์ฟในก๋วยเตี๋ยวหรือสลัดไทย เมื่อผัดกับกะเพรา กระเทียม และพริก หมูยอจะดูดซับรสชาติอันเข้มข้นของอาหารจานนี้ ทำให้ได้ประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และอร่อย

ทำไมคุณควรลองข้าวกะเพราหมูยอ
เนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ – หมูยอมีเนื้อสัมผัสที่แน่นและเด้งเล็กน้อยซึ่งแตกต่างจากหมูสับหรือไก่ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับประทาน
รสชาติสมดุลดี – หมูยอรสอ่อนๆ และเค็มเล็กน้อยเข้ากันได้อย่างลงตัวกับรสชาติเผ็ดและหอมของผัดโหระพา
อาหารจานด่วนและง่ายดาย – มักพบอาหารจานนี้ตามแผงขายอาหารริมถนนและร้านอาหารไทย ทำให้เป็นตัวเลือกที่สะดวกสำหรับมื้ออาหารด่วนและมีรสชาติอร่อย
ปรับแต่งได้ – คุณสามารถปรับระดับความเผ็ด เพิ่มไข่ดาวด้านบน หรือจับคู่กับผักสดเพื่อเป็นมื้ออาหารที่ครบถ้วน

วิธีการทำ
วิธีทำข้าวกะเพราหมูยอจะคล้ายๆ กับผัดกะเพราแบบคลาสสิก ดังนี้
ผัดกระเทียมและพริกในน้ำมันร้อนจนมีกลิ่นหอม
ใส่หมูยอหั่นชิ้นลงไป ผัดพอเหลืองเล็กน้อย
ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และน้ำปลาเพื่อรสชาติอูมามิที่เข้มข้น
ใส่ใบโหระพาสดลงไปแล้วผัดจนสลด
เสิร์ฟบนข้าวหอมมะลิร้อนๆหรือจะโรยด้วยไข่ดาวกรอบก็ได้

จะหาได้ที่ไหน
ข้าวกะเพราหมูยอมีขายตามร้านอาหารข้างทาง ศูนย์อาหาร และร้านอาหารท้องถิ่นหลายแห่ง หากคุณชอบความท้าทาย ก็สามารถลองทำข้าวกะเพราหมูยอสดๆ จากตลาดเอเชียเองที่บ้านได้

สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาอาหารไทยคลาสสิกแบบใหม่ๆข้าวกะเพราหมูยอเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม การผสมผสานความเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมของใบกะเพรากับเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของไส้กรอกหมูเวียดนาม มอบรสชาติที่ทั้งน่าพอใจและเต็มอิ่ม ลองสักครั้งแล้วอาจกลายเป็นอาหารไทยจานโปรดของคุณก็ได้


3
สินค้า บริการอื่น ๆ / Doctor At Home: หมดสติ (Coma)
« เมื่อ: 14 สิงหาคม 2025, 16:16:56 pm »
Doctor At Home: หมดสติ (Coma)

อาการหมดสติ ถือเป็นภาวะร้ายแรง ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาได้ทันท่วงที มักจะตายได้รวดเร็ว

สาเหตุ

มีสาเหตุได้มากมาย (ตรวจอาการ "หมดสติ" เพิ่มเติม) เช่น ศีรษะได้รับบาดเจ็บ จมน้ำ ไฟฟ้าช็อต กินยาพิษ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ มาลาเรียขึ้นสมอง หลอดเลือดฝอยในสมองแตก ตับแข็ง เบาหวาน ภาวะไตวาย เป็นต้น

ผู้ป่วยมักมีประวัติได้รับอุบัติเหตุ ตั้งใจกินยาหรือเสพยาเกินขนาด หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ก่อนที่จะมีอาการหมดสติ


อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการหมดสติและหมดความรู้สึกทุกอย่าง ปลุกอย่างไรก็ไม่ยอมตื่น

นอกจากนี้ยังอาจมีอาการหายใจไม่ปกติ (เช่น หอบ หายใจขัด) อาจมีอาการอัมพาตของแขนขา ปากเบี้ยว ตัวเกร็ง ชักกระตุก คอแข็ง หรือมีไข้สูง

ถ้าเป็นรุนแรง อาจหยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้น


ภาวะแทรกซ้อน

ขณะเป็นลมหมดสติ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ ทำงานกับเครื่องจักร หรือว่ายน้ำ เป็นอันตรายได้ หรืออาจล้มฟุบ หรือตกจากที่สูง ได้รับบาดเจ็บ เช่น บาดแผล กระดูกหัก ศีรษะได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย (รวมทั้งทำการตรวจดูรูม่านตา ดูขนาดรูม่านตา และปฏิกิริยาการตอบสนองต่อแสง)

แพทย์จะทำการวินิจฉัยสาเหตุให้แน่ชัดโดยการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ คลื่นไฟฟ้าสมอง เอกซเรย์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ แพทย์จะทำการปฐมพยาบาล ทำการกู้ชีพ (CPR) ในรายที่หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น แล้วส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที

แพทย์จะรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล ทำการตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ เช่น ให้ยาต้านจุลชีพรักษาโรคติดเชื้อ ให้ยารักษาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ยาต้านพิษ ผ่าตัดสมอง เป็นต้น

ขณะเดียวกันก็จะรีบช่วยชีวิตผู้ป่วย เช่น ใช้เครื่องช่วยหายใจ (อาจจำเป็นต้องเจาะคอถ้าอยู่โรงพยาบาลนานวัน) ให้น้ำเกลือ ให้ออกซิเจน ให้เลือดถ้าเสียเลือด ล้างท้องถ้าเกิดจากการกินสารพิษ เป็นต้น

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงและสภาพร่างกายของผู้ป่วย ถ้ามีสาเหตุที่แก้ไขได้และได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องได้ทันท่วงที ก็มีโอกาสรอดชีวิตและฟื้นหายเป็นปกติได้ แต่ถ้ามีสาเหตุที่ยุ่งยากซับซ้อนหรือได้รับการดูแลรักษาเนิ่นช้าเกินไป ก็มีโอกาสเสียชีวิตหรือพิการ


การดูแลตนเอง

หากพบผู้ป่วยมีอาการหมดสติ ควรทำการปฐมพยาบาล และรีบพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว

ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ) ควรกลับไปพบแพทย์


การปฐมพยาบาลผู้ที่หมดสติ

1. ตรวจสอบถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยและผู้ช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ (เช่น กรณีผู้ป่วยถูกไฟฟ้าช็อต ให้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าก่อนเข้าไปช่วยเหลือ) เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังจุดที่ปลอดภัยตามความจำเป็น (เช่น ย้ายจากกลางถนนไปที่ริมถนน) จับผู้ป่วยนอนหงายบนพื้นแข็ง ๆ เช่น พื้นห้องหรือกระดานแข็ง แล้วปลดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มให้หลวม

2. ใช้มือตบที่บ่า 2 ข้าง 3 ครั้ง และปลุกเรียกดัง ๆ ถ้าไม่ตอบสนอง ให้รีบประเมินว่าผู้ป่วยหายใจหรือไม่ (โดยดูการขยับขึ้นลงของหน้าอกและท้อง ใช้หลังมือวางชิดรูจมูก สัมผัสดูว่ามีลมหายใจหรือไม่) ถ้าไม่หายใจ หายใจพะงาบ ๆ หรือไม่แน่ใจว่ามีการหายใจ ให้ทำการกู้ชีพ (CPR) ทันที โดยรีบตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ โทรแจ้ง 1669 เรียกรถพยาบาลฉุกเฉินทันที (ให้เปิดสัญญาณมือถือและลำโพงไว้ติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลา)

3. ทำการกู้ชีพ (CPR) ด้วยการกดหน้าอก (นวดหัวใจ) โดยปฏิบัติ ดังนี้

    นั่งคุกเข่าข้างตัวผู้ป่วย ทำการกดหน้าอก (นวดหัวใจ) ด้วยอัตรา 100-120 ครั้งต่อนาที โดยมีวิธีกดหน้าอกแตกต่างตามอายุ ดังนี้

- อายุมากกว่า 8 ปี วางส้นมือข้างหนึ่งไว้ตรงกลางอก (ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างหัวนม 2 ข้าง) มืออีกข้างวางทาบหรือประสานไปบนมือแรก เหยียดแขนตรง (อย่างอแขน) ตั้งฉากกับผู้ป่วย โน้มตัวให้หัวไหล่อยู่เหนือตัวผู้ป่วย ทำการกดหน้าอกโดยการทิ้งน้ำหนักในทิศทางที่แรงกดดิ่งตรงลงไปที่กระดูกหน้าอก ทำให้กระดูกหน้าอกยุบลงอย่างน้อย 5-6 ซม. แล้วคลายมือให้สุดเพื่อให้หน้าอกคืนตัวสู่ตำแหน่งปกติ แล้วจึงค่อยกดครั้งต่อไป ทุกครั้งที่กดและคลายมือ ให้มือแตะอยู่กับหน้าอก และไม่ให้เคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม
- อายุ 1-8 ปี ทำการกดหน้าอกในทำนองเดียวกับข้างต้น แต่ให้ใช้ส้นมือเพียงข้างเดียว โดยขณะกดให้แขนเหยียดตรง ให้มีแรงกดที่ทำให้กระดูกหน้าอกยุบลงประมาณ 1 ใน 3 ของความลึกของหน้าอก ส่วนมือที่ว่างอีกมือหนึ่งวางบริเวณหน้าผากของเด็ก ดันหน้าผากให้หน้าของเด็กเชยคางขึ้นเพื่อให้เปิดทางเดินหายใจ
- ทารก (อายุต่ำกว่า 1 ปี) ให้ใช้นิ้ว 2 นิ้ว (นิ้วชี้กับนิ้วกลาง) กดตรงกลางหน้าอกแทนการใช้มือ กดให้กระดูกหน้าอกยุบลงประมาณ 1 ใน 3 ของความลึกของหน้าอก

4. ทำการกดหน้าอกต่อเนื่องไปไม่หยุด นาน 2 นาที ก็เปลี่ยนให้คนใหม่ทำต่อ อย่าหยุดกดหน้าอกเกิน 10 วินาที ผู้ช่วยเหลือสลับกันกดหน้าอกไปเรื่อย จนกระทั่งทีมกู้ชีพมาถึง หรือสังเกตเห็นผู้ป่วยมีการเคลื่อนไหวแขนขาและหายใจได้เอง (ในกรณีหลังควรจับผู้ป่วยนอนในท่าพักฟื้น และเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากหยุดหายใจให้ทำการกดหน้าอกต่อ)

5. หากมีเครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติ (automatic external defibrillator/AED) เมื่อนำมาเปิดเครื่องพร้อมใช้งาน ให้หยุดกดหน้าอก แล้วรีบใช้เครื่องนี้กระตุ้นหัวใจทันที เสร็จแล้วจึงค่อยทำการกดหน้าอก (นวดหัวใจ) ต่อไป

หมายเหตุ
1. เมื่อพบว่าผู้ป่วยหมดสติและไม่หายใจ จะต้องลงมือทำการกดหน้าอกทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจชีพจรดูว่าหัวใจหยุดเต้นหรือไม่ สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมเรื่องการกู้ชีพ ให้ทำการกู้ชีพด้วยการกดหน้าอกเพียงอย่างเดียว

  2. สำหรับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมเรื่องการกู้ชีพ ให้ทำการกดหน้าอกสลับกับการเป่าปาก โดยกดหน้าอก 30 ครั้งในอัตรา 2 ครั้งต่อวินาที (30 ครั้งในเวลา 15-17 วินาที) แล้วทำการเป่าปาก 2 ครั้งในเวลา 3 วินาที


การป้องกัน

ควรป้องกันไม่ให้เกิดอาการหมดสติ ด้วยการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะหรือโรคที่เป็นต้นเหตุของอาการหมดสติ (เช่น การบาดเจ็บรุนแรง การป่วยเป็นโรคเรื้อรังหรือร้ายแรงต่าง ๆ)

หากมีโรคประจำตัว (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น) ควรรักษาอย่างจริงจัง

ข้อแนะนำ

อาการหมดสติ มักเป็นผลแทรกซ้อนที่อันตรายร้ายแรงของการเจ็บป่วยต่าง ๆ เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ ญาติหรือผู้ที่พบเห็นควรให้การปฐมพยาบาลทันที และนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที (ทางที่ดีควรโทรศัพท์ติดต่อขอรถของโรงพยาบาลหรือหน่วยกู้ชีพ) เมื่อถึงโรงพยาบาล แพทย์จะทำการช่วยชีวิต ทำการตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุที่พบ

4
ใช้บริการ รถรับจ้างขนของจังหวัดขอนแก่น รถรับจ้างราคาถูก มีบริการมากมายให้เลือก สอบถามได้เลยครับ

วันนี้เรามาอัพเดทข้อมูลข่าวสารจากผู้ให้บริการ รถรับจ้างขนของจังหวัดขอนแก่น เช่นเดียวกันที่เรามองว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการทุกท่านอย่างแน่นอน เรามาดูว่า รถรับจ้างขนของขอนแก่น จากขนส่ง กันเลยนะคะ  “พระธาตุขามแก่น เสียงแคนดอกคูน ศูนย์รวมผ้าไหม ร่วมใจผูกเสี่ยว เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่ ไดโนเสาร์ลือก้อง เหรียญทองมวยโอลิมปิก” สวัสดีครับ วันนี้ขึ้นต้นด้วยคำขวัญ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นอีกจังหวัดหนึ่ง ที่มีขนาดใหญ่

และมีเศรษฐกิจที่ดีมากแห่งหนึ่งในภาคอีสาน หากท่านไหนที่เคยมาจังหวัดขอนแก่นก็จะรู้ดีว่า เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น สถานที่บริการการท่องเที่ยว โรงแรม สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล ซึ่งมีผู้คน มากมายทั้งในจังหวัดขอนแก่นและต่างจังหวัด เข้ามาใช้บริการหรือมาทำงานในจังหวัดแห่งนี้ โดยเฉพาะ ในตัวจังหวัด ซึ่งมี ผังเมืองที่มีขนาดใหญ่และเติบโตทุกวัน สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวจังหวัดขอนแก่น หรือต้องการ

เข้ามาทำธุรกิจในจังหวัดขอนแก่น ต้องบอกเลยว่า เป็นจังหวัดที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว และท่านไม่ต้องกังวล ว่าหากมาเที่ยวจังหวัดขอนแก่นนี้หรือธุรกิจท่านมีการเติบโตต้องการที่จะขยายธุรกิจและขนย้ายของ ท่านจะติดขัดเรื่อง การให้บริการการขนย้าย  ขนของ โดยที่นี่เรามีหน่วยงานให้บริการ รถรับจ้างขนของในจังหวัดขอนแก่น และต่างจังหวัด ไว้คอยบริการ ซึ่ง ผู้ให้บริการ รถรับจ้างขนของ ในนาม ทีมงานขนส่ง ถือได้ว่าเป็นทีมงาน รถรับจ้างจังหวัดขอนแก่น

ที่มีขนาดใหญ่มีมาตรฐาน ได้คุณภาพ ที่ดีมาก เลยทีเดียว เขามีให้บริการ รถรับจ้างงานที่หลากหลายรูปแบบหลากหลายชนิดเช่น รถหกล้อรับจ้างจังหวัดขอนแก่น รถกระบะรับจ้างจังหวัดขอนแก่น รถสิบล้อรับจ้างจังหวัดขอนแก่น รถเฮี๊ยบรับจ้างจังหวัดขอนแก่น รถเทเลอร์รับจ้างจังหวัดขอนแก่น รถรับจ้างย้ายบ้านจังหวัดขอนแก่น รถรับจ้างทั่วไป ขนย้ายทุกชนิดทุกสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภค วัตถุดิบทางการเกษตร ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายต้นไม้ ในจังหวัดขอนแก่น เช่นเดียวกัน ดังนั้น สำหรับท่านไหน ต้องการใช้บริการ รับจ้างขนของ


บริการที่สุดประทับใจ เดินทางอย่างปลอดภัยไปกับเรา

จังหวัดขอนแก่นแห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางด้านการท่องเที่ยว มีการจัดนิทรรศการ หรือ จัดงานประเพณี หรือ งานประจำปีตามเทศกาล อย่างยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นงาน วันขึ้นปีใหม่ งานวันสงกรานต์ และงาน ประเพณีทางศาสนา ซึ่งใครๆหลายท่านก็ทราบดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ ในช่วงวันสงกรานต์ จังหวัดขอนแก่นจะมี ถนนข้าวเหนียว ที่จัดงานสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ปิดถนนให้กับ คนทั่วไปเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ มีการแสดงสดดนตรี

 และอื่นๆอีกมากมาย เป็นต้น สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นไม่ได้มีเพียงแค่เท่านี้แต่มีสถานที่ท่องเที่ยว อีกมากมายจังหวัดขอนแก่น ลูกค้าท่านใดที่สนใจมาเที่ยวแต่กังวลเรื่องการเดินทางไม่มีรถบริการ ต้องขอบอกเลยว่า ทีมงาน รถรับจ้างขนของจังหวัดขอนแก่น ของเราทุกคัน พร้อมให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมง อย่าได้กังวล

ซึ่งหากท่านต้องการมาเที่ยว ในจังหวัดขอนแก่นเราจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเขาข้าวให้กับท่านใดสร้างซึ่งได้แก่

Facebook Like Promotion

1. เขื่อนอุบลรัตน์ ถือว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจบรรยากาศดี สำหรับใครที่มาเป็นครอบครัวบอกว่าที่จะมาถ่ายรูปหรือมาทานข้าวรับประทานอาหาร เส้นทางเขื่อนอุบลรัตน์จะมีแพล่องน้ำที่ให้บริการด้านอาหาร ไว้คอยรองรับลูกค้าทุกวัน

2. พระธาตุขามแก่น ชื่อว่าเป็นพระธาตุประจำจังหวัด ขอนแก่น สำหรับใครที่ต้องการ ไปกราบ ทำบุญ ให้อาหารปลา สามารถเดินทางไปไม่ไกลมากจากตัวเมือง

3. ปราสาทเปือยน้อย เป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเทวสถานศิลปะขอม สร้างด้วยศิลาแลง ถ้าผ่านมาอย่าพลาดที่จะเข้ามา ท่องเที่ยวหรือ มากราบสักการะ

4. อุทยานแห่งชาติภูเวียง เหมาะสำหรับใครหลายๆคนที่พาครอบครัวมาเที่ยว ดูพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ กระดูกไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบในจังหวัดขอนแก่นก็ยังมีอีกสถานที่อื่นๆอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว แต่เราจะหยิบยกเข้ามาเพียงแค่บางส่วน เพื่อถ้าหากว่าท่านสนใจที่จะมาท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นนี้ท่านก็สามารถโทรเข้ามาสอบถามกับเราได้ ตามเบอร์ที่อยู่ให้ข้างบนนี้ เราพร้อมที่จะให้บริการ ให้คำแนะนำ สำหรับท่านที่สนใจ แต่อย่าลืมนะครับ หากมาเที่ยวแล้ว หรือ ต้องการที่จะ ขนย้ายของ ย้ายบ้าน ขนย้ายสินค้าทั่วไป มายังจังหวัดขอนแก่นหรือจากจังหวัดขอนแก่นออกไปต่างจังหวัด โทรเรียกหารถให้บริการที่คุณภาพสูง และราคาถูก กับเราได้เลย รถรับจ้าง พร้อมให้บริการท่าน อย่างไม่มีปัญหา จากประสบการณ์การให้บริการ รถรับจ้างขนของขอนแก่น ที่มีมานานกว่า 10 กว่าปี เรามีทั้งความรู้และความชำนาญ

ในการบริการรับจ้างขนของเป็นอย่างมาก ลูกค้า ทุกรูปแบบ ขนย้าย เราให้บริการมาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่างงานง่ายหรืองานยาก

เราก็สามารถบริหารจัดการ งานขนย้ายได้เสร็จเรียบร้อยโดยไม่มีปัญหา ไม่ว่าคุณจะย้ายบ้าน ย้ายหอพักในมหาลัย ย้ายคอนโด ย้ายสินค้าอุปโภคบริโภค ขนย้ายวัตถุดิบ ขอบคุณนะคะที่วางใจเรา

5
10 ข้อดีของการเลือกใช้ รถรับจ้างขนของนครนายก รถรับจ้างใกล้ฉัน

การขนส่งสินค้าและขนย้ายของ เป็นสิ่งที่สำคัญในการเคลื่อนย้ายสินค้าและวัสดุต่างๆ ทั้งในภาคธุรกิจและชีวิตประจำวันของเรา การเลือกใช้ บริการรถรับจ้างขนของนครนายก เป็นทางเลือกที่มีประโยชน์และมีความสำคัญอย่างมากในการเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าของคุณ ด้วยความสามารถที่หลากหลายและการบริการที่มีมาตรฐาน เรามีความมั่นใจว่าการเลือกใช้ บริการรถรับจ้างขนของนครนายกขนส่ง จะนำความสะดวกสบายและประสิทธิภาพให้กับคุณอย่างแท้จริง ในบทความนี้ เราจะสำรวจและอธิบายเกี่ยวกับ 10 ข้อดีที่คุณจะได้รับจากการเลือกใช้บริการรถรับจ้างขนของนครนายกอย่างละเอียดและชัดเจน เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและแม่นยำในการเลือกบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ดังนั้น ขอเชิญติดตามข้อมูลในบทความนี้เพื่อค้นหาข้อดีและคุณประโยชน์ที่น่าสนใจจากการใช้บริการรถรับจ้างขนของนครนายกได้ทันที!กระบะรับจ้างขนของ


การเลือกใช้รถรับจ้างขนของนครนายกมีข้อดีมากมายที่สามารถอธิบายได้ดังนี้

1. ความสะดวกสบาย
การมีบริการรถรับจ้างขนของนครนายกเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณาอย่างมากเมื่อคิดถึงความสะดวกสบายในการขนส่งสินค้าหรือของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายของบุคคลหรือของธุรกิจ การมีบริการรถรับจ้างขนของมีประโยชน์มากที่สามารถทำให้ชีวิตประจำวันของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการและขนส่งเอง เพราะบริการรถรับจ้างขนของนครนายกจะช่วยเสริมความสะดวกสบายของคุณในทุก ๆ การเคลื่อนย้ายของ

2. คุ้มค่าและเหมาะสม
บริการรถรับจ้างขนของนครนายกนั้นไม่เพียงแค่สะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังมีราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่าต่อการใช้บริการ นี่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการขนส่งสินค้าหรือของในขนาดที่เล็กถึงกลางโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมาย คุณสามารถเชื่อมั่นได้ว่าคุณได้รับความคุ้มค่าที่สูงจากการใช้บริการนี้

3. ความปลอดภัยที่สูง
บริการรถรับจ้างขนของนครนายก มีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูง ซึ่งทำให้คุณมั่นใจได้ในการขนส่งสินค้าและของของตนอย่างปลอดภัย เราทราบดีว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณและบริการรถรับจ้างขนของนครนายกนั้นมีการดูแลและมีมาตรการความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมเพื่อให้คุณมีความสบายใจในการใช้บริการนี้

4. การให้บริการเชิงมืออาชีพ
ทีมงานขับรถรับจ้างขนของนครนายกมีความชำนาญและมีความเชี่ยวชาญทางด้านการขับขี่และการจัดการสินค้าอย่างมืออาชีพ เค้าเข้าใจลึกซึ้งถึงกระบวนการขนส่งและมีความรู้ที่เป็นเอกลักษณ์ในการจัดการสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ เค้ายังมีทักษะในการติดต่อและปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างเป็นมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริการที่ได้รับนั้นจะเป็นไปอย่างราบรื่น และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสมรถกระบะรับจ้างขนของ

5. เวลาที่มีค่า
การให้บริการรถรับจ้างขนของนครนายกมุ่งเน้นที่การประหยัดเวลาของลูกค้าอย่างยิ่ง ผ่านการติดต่อและนัดหมายที่มีความเอื้อมถอน ไม่ว่าคุณจะต้องการให้บริการในช่วงเวลาที่มีเหตุจำเป็นหรือตามกำหนดไว้ล่วงหน้า เรามุ่งมั่นในการทำให้ลูกค้าของเราได้รับบริการที่สะดวกสบายและตรงตามความต้องการของพวกเขา

6. ความสามารถในการจัดการ
การให้บริการรถรับจ้างขนของนครนายกจะช่วยให้คุณสามารถจัดการการขนส่งสินค้าและของของของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราไม่เพียงแค่ขับรถจะนำสินค้ามาถึงที่หมาย แต่ยังมีความสามารถในการจัดเตรียมและจัดการสินค้าในทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าของของคุณจะถูกดูแลอย่างดีที่สุดตลอดการขนส่ง

7. การขนส่งที่แม่นยำและรวดเร็ว
บริการรถรับจ้างขนของนครนายกมีระบบการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นในการให้บริการที่แม่นยำและรวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่ต้องการในเวลาที่กำหนดอย่างแน่นอน ทีมงานของเรามีความเชี่ยวชาญในการจัดการและส่งมอบสินค้าตามกำหนดเวลา ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจและเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในการใช้บริการของเรา

8. ความยืดหยุ่นในการให้บริการ
เราเข้าใจถึงความสำคัญของการมีความยืดหยุ่นในการให้บริการ และจึงมุ่งเน้นในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ บริการรถรับจ้างขนของเรามีความยืดหยุ่นในการจัดส่งสินค้าในช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการ และเรายังสามารถปรับตัวตามความต้องการของลูกค้าในทุก ๆ การจัดส่งได้อย่างแม่นยำ

9. การให้บริการที่ปรับปรุงตลอดเวลา
เราไม่หยุดพัฒนาและปรับปรุงบริการของเราอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์การใช้บริการที่ดียิ่งขึ้นทุกครั้ง โดยเราตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการให้บริการของเราอย่างต่อเนื่อง

10. ความเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ
บริการรถรับจ้างขนของเราได้รับความเชื่อถือและความไว้วางใจจากลูกค้าในพื้นที่นครนายกและรอบๆ นั้น เรามุ่งมั่นในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดในการขนส่งสินค้าและวัสดุต่างๆ ในพื้นที่นครนายกและสถานที่อื่นๆ ที่เราบริการ

คุณกำลังมองหาบริการขนส่งที่เชื่อถือได้และมีความเป็นมืออาชีพในการช่วยคุณย้ายที่อยู่หรือขนส่งสินค้าของคุณในเขตนครนายกหรือรอบๆ พื้นที่ใกล้เคียงใช่ไหม?ขนย้ายเครื่องจักร

ทีมงานของเราที่ รถรับจ้างขนของนครนายกขนส่ง มุ่งมั่นในการให้บริการที่เต็มเปี่ยมด้วยความคุณภาพและความเอื้อมเอ่อ เรามีความเชี่ยวชาญในการขนส่งทุกประเภทของสินค้าและวัสดุ ทั้งย้าย บ้าน หรือคอนโด ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องจักรใหญ่ๆ อีกทั้งยังมีบริการรถรับจ้างทั่วไปสำหรับความต้องการทุกชนิดของคุณด้วย

เราเข้าใจความสำคัญของการมีความรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในการขนส่งทุกอย่างของคุณ ด้วยทีมงานมืออาชีพและรถขนาดใหญ่ที่พร้อมให้บริการ ท่านสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าของท่านจะถูกดูแลอย่างดีที่สุดตลอดการขนส่ง

ทางเรายังมีบริการขนส่งสินค้าภายในนครนายกและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการจัดส่งแบบด่วนหรือตามนัดหมาย ทำให้การเคลื่อนย้ายสินค้าของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย

ไม่ว่าคุณกำลังย้ายบ้าน หรือมีความต้องการในการขนส่งสินค้า รถรับจ้างขนของนครนายกขนส่งพร้อมที่จะมาช่วยคุณแล้ววันนี้! ติดต่อเราเพื่อขอใบเสนอราคาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้

6
พฤติกรรมที่ทำให้เด็กเกิดฟันผุ จนอาจต้องเข้ารับการจัดฟันเด็ก

สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก เป็นสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ตั้งแต่ลูกยังเป็นทารก เพราะการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันจะทำให้เด็กมีสุขภาพฟันที่ดี มีฟันที่แข็งแรงไม่เกิดฟันผุ เพราะขณะที่เด็กมีฟันน้ำนม ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดฟันผุได้ง่ายและเด็กในวัยนี้ยังมีพฤติกรรมที่ชอบรับประทานอาหารจุกจิกหรือรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน ลูกอม รวมไปถึงน้ำอัดลม ซึ่งอาหารเหล่านี้ถือว่าเป็นศัตรูกับฟันของเราเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ดูแลในเรื่องของโภชนาการของเด็ก ก็อาจจะทำให้เด็กเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันตามมาได้ และเด็กที่อยู่ในช่วงของฟันน้ำนมนั้น พ่อแม่อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะฟันน้ำนมของเด็ก ถ้าหากว่าหลุดก่อนเวลาอันควรอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อการขึ้นของฟันแท้ในอนาคตได้ อาจจะทำให้เด็กมีฟันแท้หายนั่นก็คือ ฟันไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อดึงฟันที่หายให้ออกมา

ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็ก ทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดและติดตั้งเครื่องมือจัดฟันเพื่อให้ฟันที่ฝังอยู่เคลื่อนตัวออกมา ซึ่งก็ใช้ระยะเวลานานพอสมควร ดังนั้น ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองไม่อยากให้เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ควรพาบุตรหลานของท่านเข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละสองครั้ง เพื่อทำการตรวจช่องปากและฟันว่ามีปัญหาด้านใดบ้าง เพื่อที่จะได้รีบแก้ไขได้ทันเวลา แต่อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะสังเกตพฤติกรรมของเด็กที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับช่องปากและฟันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมา และในวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เด็กเกิดฝันผุ ซึ่งถือว่าในส่วนนี้พ่อแม่ผู้ปกครองจะมีบทบาทสำคัญในการดูแลมากกว่าทันตแพทย์ ควรที่จะสังเกตอาการเพื่อไม่ให้เด็กเกิดฟันผุจนถึงขั้นสูญเสียฟันและอาจจะต้องเข้ารับการจัดฟันในเด็ก

ก่อนอื่นเราจะต้องบอกกก่อนว่า การเกิดฟันผุในเด็กนั้น ถือว่ามีผลกระทบของโรคฟันผุในเด็กมีผลต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพช่องปากในอนาคตได้ การมีฟันน้ำนมผุ เด็กจะปวดฟัน เคี้ยวอาหารไม่ได้ ร่างกายจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ส่งผลต่อการเจริญเติบโต อีกทั้งอาการปวดฟันยังส่งผลต่อการนอนหลับและการเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้ล้วนกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กตัวเล็กๆ สามารถขัดขวางพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์และสติปัญญาได้นั่นเอง สำหรับพฤติกรรมหรือปัจจัยที่ทำให้เด็กเกิดฟันผุ อย่างแรกเลยยคือ อาหารที่เด็กรับประทานเข้าไป ส่วนใหญ่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลอยู่แทบทุกอย่าง ตั้งแต่นม ขนมอบกรอบ ขนมหวาน น้ำอัดลม ซึ่งแป้งและน้ำตาลเหล่านี้จะเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียที่พร้อมจะทำปฏิกิริยากับน้ำตาลเหล่านี้ให้เป็นกรดที่พร้อมจะทำลายผิวฟันไปทีละนิดจนลุกลามไปเรื่อยๆ   

หากไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร และเด็กก็ไม่ได้รับการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันได้ดีเท่าที่ควร รวมไปถึงพฤติกรรมในวัยเด็ก เช่น การที่เด็กนอนหลับคาขวดนม ทำให้น้ำตาลที่อยู่ในนม สามารถเข้าไปทำลายเคลือบฟันของเด็กได้ เพราะคราบจุลินทรีย์จะย่อยน้ำตาลในนมที่ค้างอยู่บนผิวฟัน ทำให้เกิดการสะสมของกรด ละลายผิวฟันเป็นรู นอกจากนี้ การรับประทานขนมตามใจชอบ แล้วไม่ยอมแปรงฟันนั่นเอง ถือเป้นต้นเหตุของการเกิดฟันผุเลย

เพราะฉะนั้น สิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะทำก็คือ ควรฝึกให้เด็กทารกเข้านอนโดยไม่มีนิสัยติดขวดนม ดูแลเรื่องของการรับประทานอาหาร งดขนม อาหารรสหวาน ควรเลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ ให้เด็กบ้วนปากหลังดื่มนม รับประทานขนม หรือหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ที่สำคัญควรให้เด็กแปรงฟันให้ลูกด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ วันละ 2 ครั้ง และพาเด็กไปพบทันตแพทย์ ตรวจฟันเป็นประจำ เพื่อจะได้รับความรู้และแนวทางปฏิบัติในการดูแลสุขภาพในช่องปากอย่างถูกต้อง

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจพาบุตหลานของท่านเข้ารับการตรวจฟัน หรือเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแทพย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมในเด็ก รวมไปถึงมีประสบการณ์ยาวนานด้านการจัดฟัน จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเกิดฟันผุตั้งแต่อายุยังน้อย ลดปัญหาการเกิดความผิดปกติของช่องปากและฟัน เพื่อให้เด็กได้สามารถใช้ชีวิตประจำวันหรือทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่

7
เลือกฉนวนกันความร้อนโรงงาน ต้องการคุณสมบัติอะไรบ้าง

ปัญหาโรงงานร้อนเกินไป ไม่ว่าเป็นเพราะความร้อนจากเครื่องจักรเข้ามาสะสม หรือความร้อนจากภายนอกทะลุเข้ามาทำให้เครื่องจักรและพนักงานทำงานลำบากมากขึ้น เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการโรงงานไม่ควรนิ่งเฉย เพราะยิ่งปล่อยไว้ก็มีแต่จะทำให้เกิดผลเสียหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งความเสื่อมของเครื่องจักร ค่าไฟที่มากขึ้น และความเสี่ยงของพนักงานในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานและปัญหาสุขภาพ

นั่นเองจึงทำให้การติดตั้ง ฉนวนกันความร้อนโรงงาน เป็นงานเร่งด่วนที่ควรจัดการให้เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าปุบปับจะเลือก ฉนวนกันความร้อนอะไรก็ได้ เพราะยิ่งมีตัวเลือกหลากหลาย ก็แสดงว่ามีทั้งฉนวนที่ดีและไม่ดีปน ๆ กันอยู่ ซึ่งเพื่อให้โรงงานเราได้ฉนวนกันความร้อนที่ดี คุณสมบัติสำคัญที่ต้องเลือกให้มีในฉนวนนั้น มีดังต่อไปนี้

1.ค่าการนำความร้อนต้องต่ำ

อาจจะดูเป็นศัพท์เทคนิคอยู่บ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ไม่ยาก โดยค่าการนำความร้อนนั้น หมายถึง คุณสมบัติในการนำความร้อนของฉนวนกันความร้อนชนิดนั้น ๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่นำมาใช้ทำฉนวนกันความร้อนนั่นเอง ซึ่งยิ่งค่าการนำความร้อนของฉนวนต่ำมากแค่ไหน ก็หมายความว่าความร้อนจะถูกนำผ่านฉนวนมาได้น้อย จึงทำให้ช่วยลดความร้อนในโรงงานได้มากขึ้นนั่นเอง

โดยวัสดุ ฉนวนกันความร้อนโรงงาน ในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกหลากหลาย อาทิ อะลูมิเนียมฟอยล์ โพลีเอธีลีนโฟม และฉนวนใยแก้ว เป็นต้น ซึ่งแต่ละวัสดุก็จะมีค่าการนำความร้อนที่ไม่เท่ากัน ดังนั้น ตอนเลือกซื้อฉนวนก็จำเป็นต้องสอบถามจากผู้ผลิตจำหน่ายก่อนว่า ฉนวนมีค่าการนำความร้อนเท่าไร แล้วเปรียบเทียบเลือกจากที่นำความร้อนได้ต่ำไว้เป็นดีที่สุด

2.ฉนวนกันความร้อนต้องหนามากพอ

นอกจากค่าการนำความร้อนแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ฉนวนกันความร้อนได้ดีหรือไม่นั้นก็คือ ความหนาของตัวฉนวน เพราะถ้าฉนวนบางเกินไป ความร้อนก็จะทะลุผ่านเข้ามาได้ง่ายมากขึ้น ยิ่งถ้าบางแล้วยังมีค่าการนำความร้อนสูงด้วย ก็จะยิ่งกลายเป็นว่าฉนวนนั้นอาจไม่สามารถกันความร้อนได้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นแล้ว ในกระบวนการเลือกฉนวนกันความร้อนโรงงาน จึงต้องไม่ดูแค่เฉพาะค่าการนำความร้อน แต่ต้องดูความหนาของเนื้อฉนวนร่วมด้วย

โดยจริง ๆ แล้วมีสูตรในการคำนวณให้เห็นถึงความสัมพันธ์กันระหว่าง 2 ค่านี้อยู่ นั่นก็คือ ความหนา หารด้วย ค่าการนำความร้อน จะออกมาได้เป็น ค่า R หรือค่าการต้านทานความร้อน ซึ่งถ้ายิ่งหนามาก ๆ และตัวหารที่เป็นค่าการนำความร้อนต่ำมาก ๆ ก็จะทำให้เห็นว่า ฉนวนกันความร้อนนั้น มีค่าการต้านทานความร้อนสูง คือ กันความร้อนได้ดีนั่นเอง

3.ต้องไม่ลามไฟ

ภายในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นเต็มไปด้วยเครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอัคคีภัยมมาก ยิ่งอยู่กับความร้อนมากด้วยแล้ว ความเสี่ยงก็ยิ่งมีมากขึ้น ดังนั้น สำหรับการเลือกฉนวนกันความร้อนโรงงาน เพื่อความปลอดภัยและเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น จึงควรเลือกฉนวนที่มีคุณสมบัติไม่ลามไฟ คือ อาจลุกติดไฟได้ แต่ไม่ลามไฟไปยังส่วนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว เพราะจะช่วยลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของธุรกิจได้มากขึ้นในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

ซึ่ง “ฉนวนกันความร้อน ” ที่เป็นฉนวนใยแก้วนั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในฉนวนที่ได้มาตรฐานการยอมรับในเรื่องนี้อย่างมาก เพราะผ่านทดสอบตามมาตรฐาน ASTM E84 และ BS476
ฉนวนความร้อน

4.ต้องแยกชนิดตามพื้นที่ใช้งานให้เหมาะสม

นอกจากจะมีค่าการนำความร้อนต่ำ มีความหนาที่เหมาะสม และมีคุณสมบัติไม่ลามไฟแล้ว ฉนวนกันความร้อนโรงงานที่ดี ก็จำเป็นต้องแบ่งแยกชนิดที่เหมาะกับพื้นที่และวัตถุประสงค์การใช้งานด้วย เพราะในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น มีจุดสำคัญที่ต้องการฉนวนกันความร้อนหลายจุด อาทิ หลังคา ผนังห้องเครื่องจักร ระบบปรับอากาศ หรือบริเวณเครื่องจักรอุณหภูมิสูง ฯลฯ ซึ่งฉนวนชนิดเดียวก็อาจไม่ได้สามารถตอบโจทย์กับการใช้งานทุกที่ได้

ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ฉนวนให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีที่สุด อย่างเช่น ฉนวนกันความร้อน ที่มีการแบ่งชนิดของฉนวนอย่างชัดเจนตามลักษณะการใช้งาน เช่น ฉนวนกันความร้อน สำหรับงานหลังคา ฉนวนกันความร้อน สำหรับงานฝ้าเพดาน และผนัง ฉนวนกันความร้อนสำหรับงานระบบปรับอากาศ และฉนวนกันความร้อน สำหรับงานทนอุณหภูมิสูง เป็นต้น

การไม่ติดตั้งฉนวนความร้อนโรงงาน ถือเป็นความเสี่ยงที่หนักแล้วสำหรับผู้ประกอบการ แต่การติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่ไม่มีคุณภาพให้กับโรงงาน อาจถือเป็นความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่กว่า เพราะทำให้เสียงบประมาณในการดำเนินงานถึง 2 ต่อ คือลงทุนติดตั้งแล้ว ต้องมาตามแก้ปัญหาการติดตั้งใหม่ภายหลังอีก

ดังนั้น ในการวางแผนแก้ไขปัญหาความร้อนสะสมภายในโรงงานนั้น จึงจำเป็นต้องศึกษาอย่างเข้าใจ และขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาความร้อนสะสมในโรงงานโดยตรง เพื่อให้ได้ทางออกที่ตอบโจทย์และเหมาะกับการใช้งานของโรงงานเราให้ได้มากที่สุด

8
บริหารจัดการอาคาร: ล้างแอร์ฆ่าเชื้อไวรัส ป้องกันโควิด-19

ช่วงนี้เป็นฤดูกาลที่ต้องล้างแอร์รับลมร้อนกันแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 บุกพวกเราหนักขนาดนี้ ทำให้การบริการทั้งหลายต้องหยุดให้บริการชั่วคราว จะเรียกช่างมาล้างแอร์ให้ ก็เกรงว่าช่างจะมีเชื้อโควิด-19 หรือเปล่า อย่ากังวล ในบทความนี้เอาวิธีล้างแอร์ด้วยตัวเองมาบอกกัน ทั้งล้างแอร์รับลมร้อน ทั้งฆ่าเชื้อไวรัส ป้องกันโควิด-19 ก็ทำได้

          เพราะอากาศร้อน บางบ้านที่มีคนอยู่บ้านตอนกลางวันด้วย ก็ต้องเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืนเลย แบบนี้จะทำให้แอร์มีความชื้นทั้งที่ตัวแอร์และตัวท่อแอร์ เป็นสาเหตุให้เชื้อโรคต่าง ๆ เจริญเติบโตได้ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และที่สำคัญคือ เชื้อไวรัส ซึ่งอาจจะเป็นเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดในตอนนี้ก็ได้

          แล้วเมื่อไหร่ถึงควรล้างแอร์...? ช่วงเวลาของการล้างแอร์ ไม่ใช่แค่ก่อนเข้าหน้าร้อนเท่านั้น แต่ควรล้างทำความสะอาดแอร์แบบเต็มระบบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่หากใช้แอร์เป็นประจำควรล้างแอร์ 6 เดือน/ ครั้ง หรือสามารถล้างแอร์เป็นประจำได้ โดยดูตามความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมและการใช้งานแอร์ได้เลย เช่น ถ้าเปิดแอร์แล้วอากาศที่ออกมาจากแอร์มีกลิ่นเหม็นอับ เบื้องต้นควรถอดแผ่นกรองอากาศออกมาล้าง แต่ถ้ากลิ่นยังไม่หาย ให้ล้างทำความสะอาดแอร์แบบเต็มระบบ

         
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก่อนการล้างแอร์

          1. ไขควง

          2. เครื่องฉีดน้ำแรงดัน/ สายฉีดและหัวฉีด

          3. โบลวเวอร์ (เครื่องเป่าลม)

          4. ผ้าใบ/ ถังน้ำ

          5. แปรง/ น้ำสบู่/ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค

         
ทีนี้เราลองมาเริ่มล้างแอร์ด้วยตัวเองกัน ก่อนอื่นต้องปิดเบรกเกอร์เพื่อตัดไฟก่อน ไฟจะได้ไม่ช็อต

          1. เริ่มด้วยการเปิดหน้ากากแอร์ แล้วถอดแผ่นกรองอากาศ (ฟิลเตอร์) ออกมา ระวังอย่าให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ฟุ้งกระจาย รวบรวมรอเอาไปล้างทำความสะอาด ซึ่งควรถอดแผ่นกรองอากาศออกมาล้างอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือล้างเมื่อฝุ่นเริ่มหนา

          2. ขันสกรูน็อตที่ยึดหน้ากากแอร์และฝาครอบแอร์ จากนั้นถอดออกมา รวบรวมรอทำความสะอาด

          3. ขันสกรูที่ล็อคถาดน้ำทิ้ง และถอดมอเตอร์สวิงออก จากนั้นขยับถาดน้ำทิ้งเพื่อปลดล็อคและดึงออกมา รวบรวมไปทำความสะอาด

          4. ถอดแผ่นเกล็ดกระจายลมออก เพื่อรวบรวมไปทำความสะอาดเช่นกัน

          5. ใช้ถุงพลาสติกครอบวงจรไฟฟ้าของแอร์ให้มิดชิด

          6. นำผ้าใบมาขึง โดยคลุมที่ใต้แอร์และพาดลงไปในถังพลาสติก ให้ผ้าใบเป็นลักษณะคล้ายกรวยที่ลำเลียงน้ำลงถัง และเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นไปที่กำแพงหรือหยดลงพื้น

          7. ฉีดล้างทำความสะอาดให้ทั่วแผงคอยล์เย็น ด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันหรือสายฉีดน้ำทั่วไปก็ได้

          8. จากนั้นใช้โบลวเวอร์ (เครื่องเป่าลม) เป่าแผงคอยล์เย็นและแผงวงจรไฟฟ้าให้แห้งสนิท

          9. ใช้แปรงและน้ำสบู่ขัดล้างแผ่นกรองอากาศ หน้ากากแอร์ ฝาครอบแอร์ ถาดน้ำทิ้ง และแผ่นเกล็ดกระจายลม ที่สำคัญช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบนี้ ควรผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อทำความสะอาดด้วย จากนั้นใช้เครื่องเป่าลม เป่าให้แห้งสนิท

          10. เมื่อล้างทำความสะอาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้ประกอบชิ้นส่วนกลับเข้าที่ โดยเริ่มจากแผ่นเกล็ดกระจายลม แล้วย้อนกลับไปตามลำดับจากตอนที่ถอด

          11. มาถึงขั้นตอนล้างทำความสะอาดคอยล์ร้อน (คอมเพรซเซอร์แอร์ที่ตั้งอยู่นอกบ้าน) ล้างง่าย ๆ แค่ฉีดน้ำไล่ฝุ่นจากด้านนอกเครื่องให้สะอาด โดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วนออก

          12. ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่จะช่วยปกป้องคุณจากเชื้อโรคได้ ในขณะที่ยังปิดแอร์อยู่ ให้ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคเข้าไปที่ช่องหน้ากากแอร์ ทิ้งไว้ 10 - 15 นาที

          13. ขั้นตอนสุดท้าย ให้ลองเปิดแอร์ทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพื่อทดสอบความปกติของระบบต่าง ๆ ของแอร์ และไล่ความชื้นที่อาจค้างจากการล้างแอร์

9
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


10
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


11
สินค้า บริการอื่น ๆ / Doctor At Home: สิว (Acne/Acne vulgaris)
« เมื่อ: 07 สิงหาคม 2025, 14:48:35 pm »
Doctor At Home: สิว (Acne/Acne vulgaris)

แพทย์จะให้การดูแลรักษา โดยแนะนำข้อปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่เป็นสิว และให้ยารักษา ดังนี้

1. ถ้าเป็นเพียงสิวเสี้ยน (สิวหัวขาว หรือหัวดำ) ยังไม่มีการอักเสบเป็นตุ่มแดงหรือตุ่มหนอง ควรให้การรักษาดังนี้

(1) ใช้ยาทาในกลุ่มกรดเรติโนอิก (ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ) มีฤทธิ์ป้องกันการอุดตันของรูขุมขน เลือกใช้ชนิดใดชนิดหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    เทรติโนอิน (tretinoin) ชนิดเจลหรือครีม มีฤทธิ์ละลายขุย ทำให้หัวสิวหลุดลอก และป้องกันมิให้เกิดสิวใหม่ ใช้ทาทั่วใบหน้า ยกเว้นขอบตาและซอกจมูก วันละครั้ง ก่อนนอน จะเริ่มเห็นผลเมื่อใช้นาน 3-4 เดือน ยานี้อาจทำให้เกิดการระคายเคือง หน้าแดง แสบ แห้ง ลอก และเกิดการแพ้แดดได้ (เมื่อใช้ยานี้ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด หรือทายากันแดดในเวลากลางวัน) ในบางรายอาจทำให้เป็นสิวมากขึ้นในช่วง 3-4 สัปดาห์แรกของการใช้ยา
    ไอโซเทรติโนอิน (isotretinoin) ชนิดเจลหรือครีม มีฤทธิ์ทำให้การสร้างเคอราตินกลับสู่สภาพปกติ และลดการอักเสบ ใช้ทาวันละครั้ง ก่อนนอน
    อะดาฟาลีน (adaphalene) ชนิดเจลหรือครีม เป็นกรดเรติโนอิกสังเคราะห์ มีข้อดี คือ นอกจากใช้รักษาสิวเสี้ยนแล้ว ยังใช้กับสิวที่อักเสบได้ด้วย
    ทาซาโรทีน (tazarotene) ชนิดเจลหรือครีม มีข้อดี คือ นอกจากใช้รักษาสิวเสี้ยนแล้ว ยังใช้กับสิวที่อักเสบได้เช่นเดียวกับอะดาฟาลีน

(2) ทำการกดสิว โดยใช้เครื่องมือกดสิว ในรายที่รูเปิดเล็กมาก อาจจำเป็นต้องใช้เข็มเบอร์ 25 หรือ 26 ขยายรูเปิด ช่วยให้การกดสิวเป็นไปได้ง่ายขึ้น การกดสิวควรทำให้ถูกหลักวิธีและสะอาด วิธีนี้ช่วยลดรอยโรคที่เป็นอยู่ให้หายไปได้รวดเร็ว ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดตุ่มอักเสบเห่อขึ้นหลังการรักษา อย่างไรก็ตาม ผลที่ได้มักเป็นเพียงชั่วคราว มักจะเกิดหัวสิวขึ้นใหม่ได้อีก จึงต้องใช้ร่วมกับการทายาดังกล่าวข้างต้น

2. ถ้าเป็นสิวหัวแดงหรือตุ่มหนอง ให้การรักษาดังนี้

(1) ใช้ยาทารักษาสิวชนิดใดชนิดหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide/BP) ชนิดเจลหรือครีม ยานี้ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อพีแอกเนส์ ลดการอักเสบ และลดปริมาณไขมันที่ผิวหนัง แต่อาจทำให้หน้าแดง แสบ แห้งเป็นขุย ทาทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด วันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน

ถ้าใช้เพียงอย่างเดียวไม่ได้ผล ควรใช้ร่วมกับยาทาดังกล่าวในข้อ 1 โดยใช้เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ทาตอนเช้า และใช้กรดเรติโนอิกชนิดใดชนิดหนึ่งทาตอนก่อนนอน เริ่มต้นควรให้สลับวันก่อน เมื่อเริ่มคุ้นกับยาจึงปรับมาใช้ในวันเดียวกันต่อไป

    ไอโซเทรติโนอิน ใช้ทาเดี่ยว ๆ หรือร่วมกับเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ หรือร่วมกับยาปฏิชีวนะ
    ใช้ยาปฏิชีวนะชนิดทา เช่น คลินดาไมซิน (clindamycin) หรืออีริโทรไมซินชนิดน้ำ หรือชนิดเจล ทาวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น นาน 8-12 สัปดาห์ ยาปฏิชีวนะชนิดทาดังกล่าวไม่ควรใช้เดี่ยว ๆ เพราะเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยา ควรใช้ร่วมกับเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ หรือกรดเรติโนอิก

(2) ถ้าไม่ได้ผล หรือมีการอักเสบมาก ให้ใช้ยาทาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ หรือกรดเรติโนอิก ร่วมกับยาปฏิชีวนะชนิดกิน ได้แก่ เตตราไซคลีน

ถ้าไม่ได้ผลให้กินดอกซีไซคลีน

ถ้าแพ้เตตราไซคลีน หรือดอกซีไซคลีน หรือมีข้อห้ามใช้ยา 2 ชนิดนี้ (หญิงตั้งครรภ์ และเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี) หรือใช้ไม่ได้ผลตั้งแต่เดือนแรกให้เปลี่ยนไปใช้อีริโทรไมซิน หรือโคไตรม็อกซาโซล นาน 4-6 สัปดาห์ ยาปฏิชีวนะจะช่วยฆ่าเชื้อพีแอกเนส์ และลดปริมาณของกรดไขมันอิสระที่เป็นต้นเหตุของการอักเสบของสิว

3. ถ้ารักษาด้วยวิธีดังกล่าวไม่ได้ผล หรือมีการอักเสบรุนแรง (เช่น มีสิวหัวช้างขึ้นหลายแห่ง) หรือมีแผลเป็นหรือแผลปูด (คีลอยด์) หรือผิวหน้าขรุขระมาก แพทย์อาจใช้วิธีปรับยารักษาใหม่ ในผู้หญิงอาจให้กินยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีตัวยาไซโพรเทโรนอะเซเทต (cyproterone acetate) เช่น ไดแอน-35 (Diane-35) นาน 6-12 เดือน (เริ่มเห็นผลหลังใช้ยา 3-4 เดือน) ยานี้ออกฤทธิ์เป็นตัวต้านฮอร์โมนเพศชาย (anti-androgen) ช่วยลดขนาดของต่อมไขมันและปริมาณของไขมัน ยานี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่หน้ามันมาก ๆ หรือมีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ

ในรายที่เป็นสิวเสี้ยนขนาดใหญ่ที่ไม่ตอบสนองด้วยยาทา แพทย์อาจรักษาด้วยการจี้ด้วยไฟฟ้า (gentle light cautery)

ในรายที่เป็นสิวหัวช้างหรือเป็นหนอง แพทย์อาจทำการเจาะระบายหนองออก ซึ่งจะช่วยให้รอยโรคยุบเร็วขึ้น

ในรายที่เป็นรุนแรง ขึ้นเป็นถุง อาจรักษาโดยการฉีดสเตียรอยด์ ได้แก่ ไตรแอมซิโนโลนอะเซโทไนด์เข้าที่หัวสิว หรือให้กินไอโซเทรติโนอิน (กรดเรติโนอิก) ชนิดเม็ด ยากินชนิดนี้มีฤทธิ์ในการทำให้ต่อมไขมันมีขนาดเล็กลง ลดปริมาณไขมันในต่อมไขมัน ลดจำนวนเชื้อแบคทีเรีย และลดการอักเสบ ใช้ได้ผลดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ดื้อต่อการรักษาด้วยยาอื่น ๆ แต่ยานี้มีผลข้างเคียง เช่น ริมฝีปากอักเสบ ตาอักเสบ ตาแห้ง สู้แสงไม่ได้ ปากแห้ง จมูกแห้ง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ภาวะไขมันในเลือดสูง เอนไซม์ตับ (AST, ALT) สูง ไม่ควรใช้ร่วมกับเตตราไซคลีน อาจทำให้เกิดภาวะความดันของน้ำในสมองสูงได้ และข้อสำคัญหญิงตั้งครรภ์ที่กินยานี้อาจทำให้ทารกพิการได้ (ควรระวังการใช้ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ ก่อนใช้ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ และระหว่างที่ใช้ก็ต้องหาวิธีคุมกำเนิด และควรหยุดกินยาก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 2 เดือน) ดังนั้นยาชนิดนี้จึงควรสั่งใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ในรายที่เป็นถุง อาจใช้ไนโตรเจนเหลว (liquid nitrogen) แตะหัวสิวที่เป็นถุง เพื่อช่วยลดการอักเสบ และใช้ความเย็นจากสารชนิดน้ำ ทำลายผนังของถุง

บางกรณีแพทย์อาจให้การรักษาด้วยแสง (phototherapy) หรือแสงเลเซอร์ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาทาและยากินรักษาสิว

ในรายที่เป็นแผลเป็น ผิวหนังขรุขระมาก อาจต้องแก้ไขด้วยการใช้เครื่องมือขัดผิวหน้า (dermabrasion) ใช้สารเคมีกัดส่วนที่เป็นริ้วรอยแผลเป็นออกไป (chemosurgery) หรือการฉีดสารแก้ไขหลุมรอยแผลเป็น (filler injection) ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

12
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)

COPD (Chronic Obstructive Pulmonary Disease) หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เกิดจากปอดได้รับความเสียหายอย่างเรื้อรังจนก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ ผู้ป่วยจะมีอาการของโรคถุงลมโป่งพองและหลอดลมอักเสบเรื้อรังเกิดขึ้นร่วมกัน เช่น ไอแบบมีเสมหะ รู้สึกเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงหวีดในลำคอ แน่นหน้าอก เป็นต้น

อาการของ COPD

อาการของ COPD พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเวลาหลายปี ในช่วงแรกอาจไม่มีอาการใด ๆ มีอาการเพียงเล็กน้อย หรือมีอาการแย่ลงเมื่อโรคทวีความรุนแรงขึ้น และอาการอาจกำเริบเป็นระยะเฉลี่ยปีละ 1-2 ครั้ง และอาจทำให้ทรุดป่วยทันทีทันใด ทั้งนี้ ความรุนแรงของอาการในผู้ป่วยแต่ละรายขึ้นอยู่กับความเสียหายของปอดด้วย โดยอาการของ COPD ที่พบได้บ่อย ได้แก่

    หอบ โดยเฉพาะเวลาต้องออกแรงหรือทำกิจวัตรประจำวัน
    ไอหรือไอเรื้อรัง มีเสมหะเหนียวข้นปริมาณมาก
    หายใจลำบาก มีเสียงหวีดในลำคอตลอดเวลา
    เกิดการติดเชื้อที่ปอดบ่อย ๆ

อาการอื่น ๆ ที่บ่งบอกว่าโรคเริ่มรุนแรง แต่อาจพบได้น้อย ได้แก่ เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด แขน ขา หรือข้อเท้าบวม กล้ามเนื้ออ่อนแรง เจ็บแน่นหน้าอก ไอเป็นเลือด เป็นต้น หากพบอาการรุนแรงดังกล่าว หรืออาการที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้นจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงพูดหรือหายใจลำบาก ปากและเล็บเปลี่ยนเป็นสีม่วง หัวใจเต้นเร็ว ไม่มีอาการตื่นตัว ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

อย่างไรก็ตาม อาการในข้างต้นอาจมีความคล้ายคลึงกับบางโรค เช่น โรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ ภาวะโลหิตจาง หรือภาวะหัวใจล้มเหลว ผู้ป่วยที่พบอาการต้องสงสัยควรปรึกษาแพทย์ถึงอาการที่เกิดขึ้นเพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป และผู้ที่สูบบุหรี่หรือมีประวัติเคยสูบบุหรี่
สาเหตุของ COPD

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอาจเกิดจากสาเหตุ ดังนี้

    COPD เกิดจากปอดและระบบทางเดินหายใจได้รับความเสียหายจนเกิดการอักเสบ สาเหตุส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการได้รับสารอันตรายเข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานาน หรืออาจเกิดจากหลายปัจจัยรวมกัน ได้แก่  การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุหลักที่พบได้บ่อยของ COPD เนื่องจากสารเคมีอันตรายในบุหรี่สามารถทำลายผนังด้านในของปอดและระบบทางเดินหายใจได้ รวมไปถึงการสูดเอาควันบุหรี่จากผู้อื่นหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกประเภทก็อาจเพิ่มความเสี่ยงได้ แต่ผู้ป่วยบางรายที่ไม่สูบบุหรี่ก็อาจเกิดโรคนี้ได้เช่นกัน
    การสูดดมควัน ฝุ่น หรือสารเคมี การทำงานในสภาพแวดล้อมหรือสถานที่ที่ต้องหายใจเอาฝุ่นผง ละอองสารเคมี หรือควันบางชนิดในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานานสามารถสร้างความระคายเคืองกับระบบทางเดินหายใจ ทำลายเนื้อเยื่อปอด ส่งผลให้การทำงานของปอดแย่ลงได้ เช่น ไอหรือฝุ่นแคดเมียมในอุตสาหกรรมโลหะหนัก ฝุ่นผงจากแป้งหรือธัญพืช ควันจากการเชื่อมเหล็กหรือโลหะ ฝุ่นหินทราย สารไอโซไซยาเนตในงานพ่นสี เป็นต้น
    มลพิษทางอากาศ การสูดเอาอากาศที่มีการปนเปื้อนเป็นเวลานานจะส่งกระทบต่อการทำงานของปอดและอาจทำให้เกิด COPD ได้
    พันธุกรรม ผู้ป่วย COPD บางรายอาจป่วยด้วยโรคทางพันธุกรรมหายากจากการขาดอัลฟ่า 1 (Alpha-1-Antitrypsin Deficiency) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สร้างจากตับและจะไหลเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อช่วยปกป้องปอดไม่ให้ได้รับความเสียหาย โดยการขาดอัลฟ่า 1 จะส่งผลให้ตับและปอดถูกทำลาย ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคนี้จึงมีแนวโน้มเกิด COPD ได้ก่อนอายุ 35 ปี โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติการสูบบุหรี่เป็นเวลานาน แต่บางกรณีอาจเกิดขึ้นกับเด็กหรือผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ได้เช่นกัน

ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดโรคนี้ ได้แก่

    โรคประจำตัว เช่น ผู้ที่เป็นโรคหอบหืดแล้วสูบบุหรี่
    อายุ COPD จะค่อย ๆ เกิดอาการอย่างช้า ๆ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักตรวจพบโรคเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉลี่ยอายุ 40 ปีขึ้นไป
    เด็กที่คลอดก่อนกำหนด อาจส่งผลให้เกิดการเจริญเติบโตผิดปกติของหลอดลมและเนื้อปอด ซึ่งอาจกลายเป็น COPD ได้ในภายหลัง

การวินิจฉัย COPD

แพทย์จะวินิจฉัยโรคโดยเริ่มจากการซักประวัติทั่วไป เช่น อาการผิดปกติ ประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยและครอบครัว ตรวจดูความเหมาะสมของน้ำหนักตัว พฤติกรรมการสูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่จากผู้อื่น เป็นต้น จากนั้นอาจตรวจร่างกายเบื้องต้นและตรวจด้านอื่น ๆ ดังนี้

    การตรวจสมรรถภาพปอดโดยใช้สไปโรเมตรีย์ (Spirometry) เป็นการตรวจดูการทำงานของปอดจากการวัดปริมาตรอากาศหายใจภายในปอดและความเร็วที่หายใจออกแต่ละครั้ง โดยก่อนตรวจแพทย์อาจให้ยาพ่นขยายหลอดลมก่อน แล้วจึงค่อยให้ผู้ป่วยเป่าลมหายใจผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า สไปโรเมตรีย์ วิธีนี้ยังช่วยวินิจฉัยความรุนแรงของโรค ผลการรักษา และประสิทธิภาพของการใช้ยาได้ด้วย
    การตรวจเอกซเรย์ทรวงอก เป็นการเอกซเรย์ดูความผิดปกติของปอดและอวัยวะบริเวณช่วงอก ซึ่งบางรายอาจตรวจพบถุงลมโป่งพอง และวิธีนี้ช่วยให้แพทย์แยกอาการผิดปกติที่คล้ายคลึงกันออกจากโรคอื่น ๆ ด้วย เช่น การติดเชื้อที่ทรวงอก มะเร็งปอด เป็นต้น
    การตรวจเลือด แพทย์อาจตรวจเลือดเพื่อแยกโรคบางชนิด เช่น โรคโลหิตจาง ภาวะเม็ดเลือดแดงข้น หรือโรคถุงลมโป่งพองจากการขาดอัลฟ่า 1
    การตรวจซีที สแกน เป็นการตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ทำให้แพทย์ทราบรายละเอียดของความผิดปกติที่ปอดมากขึ้น และวางแผนการรักษาขั้นต่อไปได้อย่างเหมาะสม แต่อาจจำเป็นในผู้ป่วยบางรายเท่านั้น เช่น ใช้ประเมินว่าผู้ป่วยได้รับประโยชน์จากการผ่าตัดมากน้อยแค่ไหน ตรวจหาถุงลมโป่งพอง และคัดกรองมะเร็งปอด เป็นต้น
    การตรวจอื่น ๆ เช่น การวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง การตรวจเสมหะดูการติดเชื้อ

การรักษา COPD

แพทย์จะรักษาผู้ป่วยตามอาการและแนะนำให้หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรค เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและชะลอความรุนแรงของโรค เพราะ COPD ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ควบคุมอาการไม่ให้แย่ลง โดยการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคด้วย ดังนี้

การเลิกสูบบุหรี่ การเกิดโรคแต่ละรายจะมีสาเหตุแตกต่างกันออกไป แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยหยุดปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรค โดยเฉพาะการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะเร่งการดำเนินโรคให้เร็วขึ้น เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย และมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว

การหลีกเลี่ยงมลพิษและสารเคมี มลพิษและสารเคมีเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้อาการของโรคแย่ลง ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หากมีความจำเป็นควรสวมเครื่องป้องกันเสมอ เพื่อลดการสูดเอาสารอันตรายเข้าสู่ร่างกาย และชะลอการกำเริบอย่างรุนแรงของโรค

การใช้ยา แพทย์จะใช้ยาหลายชนิดรักษาร่วมกันตามอาการและภาวะแทรกซ้อนของโรค โดยยาที่ใช้มีอยู่หลายกลุ่ม ดังนี้

    ยาขยายหลอดลม เป็นยาช่วยคลายกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ เพื่อช่วยให้หายใจง่ายขึ้น ส่วนใหญ่เป็นยาในรูปแบบสูดพ่นผ่านเครื่องมือสูดพ่นยา ทำให้ผู้ป่วยได้รับยาเข้าสู่ปอดโดยตรงขณะหายใจ กลุ่มยาที่นิยมใช้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
        ยาชนิดออกฤทธิ์สั้น สำหรับรักษาผู้ป่วยที่มีอาการกำเริบเป็นระยะ เช่น ยาไอปราโทรเปียม ยาซัลบูทามอล หรือยาซัลบูทามอลใช้ร่วมกับยาไอปราโทรเปียม
        ยาชนิดออกฤทธิ์ยาว ใช้ป้องกันอาการเกี่ยวกับการหายใจที่เกิดเป็นประจำ เช่น ยาไทโอโทรเปียม ยาฟอร์โมเทอรอล ยาซาลเมเทอรอล หรือเป็นยาผสมกัน 2 ชนิดขึ้นไป เช่น ใช้ยากระตุ้นตัวรับชนิดเบต้า 2 รักษาร่วมกับยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
    ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ มีทั้งชนิดรับประทานและสูดพ่น โดยยาพ่นสเตียรอยด์มักใช้รักษาร่วมกับยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์ยาว
    ยาปฏิชีวนะ ใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยติดเชื้อบริเวณทรวงอก เช่น โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน โรคปอดบวม โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น อีกทั้งยาชนิดนี้ยังป้องกันภาวะแทรกซ้อนและอาการของโรคไม่ให้รุนแรงมากกว่าเดิมด้วย
    ยาชนิดอื่น ๆ เช่น ยาทีโอฟิลลีน อาจช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น และป้องกันการกำเริบของโรค

การรักษาอื่น ๆ เป็นการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการระดับปานกลางถึงรุนแรง เช่น

    การฟื้นฟูสมรรถภาพปอด เป็นการรักษาที่มุ่งเน้นให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ควบคุมอาการไม่ให้แย่ลง และให้ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ผู้ป่วยจะได้เรียนรู้การปรับตัวอย่างถูกวิธี เช่น การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การรับประทานอาหาร การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และจิตใจ การดูแลตนเองและอยู่ร่วมกับครอบครัว เป็นต้น
    การบำบัดด้วยออกซิเจน การบำบัดด้วยออกซิเจนจะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตผู้ป่วยให้ดีขึ้น เพราะผู้ป่วยที่มีอาการค่อนข้างรุนแรงมักได้รับออกซินเจนไม่เพียงพอจากเลือด ทำให้ต้องได้รับออกซิเจนเข้าสู่ปอดผ่านเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งอาจใช้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อต้องทำกิจกรรมใด ๆ หรืออาจให้ออกซิเจนแบบระยะยาว โดยแพทย์จะพิจารณาจากความรุนแรงของอาการ
    การผ่าตัด หากรักษาด้วยยาหรือวิธีอื่นไม่ได้ผล ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยแพทย์จะพิจารณาความเหมาะสมและใช้วิธีนี้เฉพาะบางกรณีเท่านั้น เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงมากกว่าวิธีอื่น ซึ่งการผ่าตัดมีอยู่หลายประเภท เช่น การผ่าตัดถุงลมขนาดใหญ่ออก การผ่าตัดเพื่อลดขนาดปอด เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อหายใจกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการปลูกถ่ายปอดสำหรับผู้ป่วยวิกฤต เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการหายใจ

การประเมินการรักษาจากความรุนแรงของโรค

แพทย์จะตรวจประเมินความรุนแรงของโรค โดยแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้

    ระดับ 1 ไม่รุนแรง ไม่สามารถสังเกตอาการได้อย่างชัดเจน เป็นอาการทั่วไปที่อาจเกิดได้จากโรคอื่น ๆ แต่จะค่อย ๆ มีอาการรุนแรงขึ้น เช่น ผู้ป่วยอาจเริ่มไอเรื้อรังและมีเสมหะมาก การรักษาขั้นนี้จะเริ่มใช้ยาขยายหลอดลม
    ระดับ 2 ปานกลาง อาการของโรคเริ่มสังเกตเห็นได้ เช่น ไอ มีเสมหะมาก หายใจลำบาก การรักษาอาจต้องใช้ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์ยาว เพราะอาการคงอยู่นานและไม่หายไป
    ระดับ 3 รุนแรง อาการของโรคเกิดขึ้นถี่มากขึ้น บางครั้งอาจกำเริบฉับพลันและรุนแรงเป็นระยะ ทำให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมปกติได้ลำบาก แพทย์มักจะรักษาด้วยการใช้ยาควบคู่กับวิธีอื่น ๆ
    ระดับ 4 รุนแรงมาก อาการที่เป็นอยู่รุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หรือหัวใจเกิดความผิดปกติ และอาจมีอาการกำเริบจนเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งแพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมตามอาการต่อไป

ภาวะแทรกซ้อนของ COPD

อาการของ COPD มักส่งผลให้การทำกิจวัตรประจำวันยากลำบากขึ้น เช่น เดินไม่สะดวก ขึ้นบันไดไม่ได้ บางรายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจซึ่งกระทบต่อการนอนหลับ หากอาการของโรครุนแรงมากอาจทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และอาจนำไปสูู่ภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะอื่น ๆ ได้อีกหลายประการ เช่น

    ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง COPD อาจทำให้ความดันหลอดเลือดที่นำเลือดไปสู่ปอดเพิ่มสูงขึ้น
    การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะเป็นหวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม และโรคอื่น ๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบากมากกว่าเดิมและอาจมีเนื้อเยื่อปอดที่ถูกทำลายจนเสียหายได้
    โรคหัวใจ ผู้ป่วยมีโอกาสเกิดโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือหัวใจข้างขวาล้มเหลว
    โรคกระดูกพรุน ผู้ป่วยอาจมีภาวะกระดูกพรุนได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
    ภาวะโพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ หรือโรคปอดแตก เป็นภาวะที่มีลมในช่องเยื่อหุ้มปอด เนื่องจากโครงสร้างของปอดถูกทำลายจนเสียหาย ทำให้อากาศไหลเข้าสู่ช่องอก
    มะเร็งปอด ผู้ป่วย COPD มีโอกาสเกิดโรคมะเร็งปอดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงร่วมกันหลายสาเหตุ โดยเฉพาะการสูบบุหรี่
    โรคซึมเศร้า อาการของโรคอาจทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ จนทำให้เกิดความรู้สึกเศร้า หดหู่ และเกิดอารมณ์ด้านลบอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าได้

การป้องกัน COPD

การป้องกัน COPD อาจทำได้เฉพาะบางสาเหตุ เพราะปัจจัยบางอย่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การทราบประวัติด้านสุขภาพของตนเองและครอบครัวจะช่วยหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ รวมทั้งการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนี้   

    ไม่สูบบุหรี่ เลิกบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการรับควันบุหรี่มือสอง บุหรี่หรือยาสูบทุกชนิดล้วนประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และเป็นสาเหตุหลักของโรคนี้ การใช้สารเหล่านี้เป็นเวลานานจะเร่งให้เกิดโรคขึ้นมาได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงเกิดโรคนี้สูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคพันธุกรรมจากการขาดโปรตีนอัลฟ่า 1 หรือผู้ที่เป็นโรคหืด
    หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ การสูดดมอากาศที่ปนเปื้อนสารเคมี ฝุ่นละออง หรือสารใด ๆ ในปริมาณมากสามารถสร้างความระคายเคืองแก่ระบบทางเดินหายใจและอาจก่อปัญหาสุขภาพตามมาได้ จึงควรสวมอุปกรณ์ป้องกันหรือหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูงเป็นเวลานาน

13
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


14
งานฝีมือ จากผ้า/เศษผ้ามาแปลงโฉมให้เป็นของแต่งบ้านเก๋ไก๋ได้

เศษผ้าเหลือใช้หรือผ้าเก่า ๆ ที่ดูเหมือนจะหมดประโยชน์ สามารถนำมาแปลงโฉมเป็นของแต่งบ้านเก๋ไก๋น่ารัก ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ นี่คือไอเดียงานฝีมือจากผ้า/เศษผ้า ที่คุณสามารถทำเองได้ง่าย ๆ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและสไตล์ให้กับบ้านของคุณ:

1. ปลอกหมอนอิง DIY (Patchwork / Appliqué)

ปลอกหมอนอิงเป็นของตกแต่งบ้านที่เห็นได้ชัดเจนและเปลี่ยนบรรยากาศห้องได้ง่าย

ปลอกหมอน Patchwork: นำเศษผ้าหลาย ๆ ลาย หรือหลาย ๆ สีที่มีเนื้อผ้าคล้ายกัน มาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ (เช่น สี่เหลี่ยมจัตุรัส สามเหลี่ยม) แล้วเย็บต่อกันให้เป็นลวดลายใหม่ เช่น ลายเรขาคณิต ลายกราฟิก หรือจะเย็บแบบสุ่ม ๆ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ

ปลอกหมอน Appliqué: ตัดผ้าเป็นรูปทรงต่าง ๆ ที่ต้องการ (เช่น รูปสัตว์ ดอกไม้ หัวใจ ตัวอักษร) แล้วนำไปวางทาบลงบนผ้าพื้นหลังของปลอกหมอน จากนั้นเย็บขอบติดให้แน่น อาจใช้การเย็บแบบซิกแซก หรือการเย็บด้นถอยหลังด้วยมือก็ได้

2. กระเป๋าผ้า/กล่องผ้าจัดระเบียบ

ช่วยจัดเก็บของกระจุกกระจิกให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แถมยังดูสวยงาม

กระเป๋าแขวนผนัง/ข้างเตียง: เย็บผ้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งเป็นช่อง ๆ หลายช่อง แล้วเย็บหูสำหรับแขวน ใช้สำหรับใส่รีโมท โทรศัพท์ หนังสือ หรือของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ข้างเตียง หรือในห้องน้ำ

กล่องผ้า/ตะกร้าผ้า: เย็บผ้าให้เป็นรูปทรงกล่องหรือตะกร้า มีก้นและขอบที่แข็งแรง อาจใช้ผ้าสักหลาดหนา ๆ หรือเย็บซับในด้วยผ้าที่มีความแข็งแรง เพื่อให้คงรูปทรง ใช้สำหรับเก็บของเล่นเด็ก หนังสือ หรือเสื้อผ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ

3. พรมเช็ดเท้า DIY / พรมตกแต่งพื้น

สร้างความนุ่มนวลและสีสันให้กับพื้นบ้าน

พรมถักเปีย: ตัดเศษผ้าออกเป็นเส้นยาว ๆ (อาจจะเลือกสีที่เข้ากันหรือตัดกัน) แล้วนำมาถักเปียให้เป็นเส้นยาว ๆ จากนั้นนำเส้นเปียที่ได้มาเย็บวนเป็นก้นหอย หรือเย็บต่อกันเป็นรูปทรงที่ต้องการ เช่น สี่เหลี่ยม วงกลม

พรมจากเศษผ้าชิ้นเล็ก: ตัดเศษผ้าเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือริ้วผ้า แล้วนำไปผูก มัด หรือเย็บติดกับแผ่นตาข่ายกันลื่น หรือผ้าหยาบ ๆ ให้แน่น จนเต็มผืน จะได้พรมที่มีเท็กซ์เจอร์นุ่ม ๆ ฟู ๆ

4. งานตกแต่งผนัง / โมบายล์จากผ้า

เพิ่มชีวิตชีวาให้กับผนังบ้านที่ว่างเปล่า

งานศิลปะจากผ้า (Fabric Wall Art): นำเศษผ้าหลาย ๆ ลายมาตัด เย็บ ปัก หรือปะติด ลงบนผ้าผืนใหญ่ อาจทำเป็นภาพนามธรรม ภาพทิวทัศน์ หรือภาพที่มีเรื่องราว แล้วนำไปใส่กรอบหรือแขวนผนัง

โมบายล์จากเศษผ้า: ตัดเศษผ้าเป็นรูปทรงน่ารัก ๆ เช่น ดาว เมฆ หัวใจ นก หรือพู่ไหมพรม แล้วนำมาร้อยเรียงกับเชือก แขวนตกแต่งในห้องเด็ก หรือมุมสบาย ๆ ของบ้าน

5. ของใช้ในครัว / ของใช้บนโต๊ะอาหาร

เปลี่ยนเศษผ้าเป็นของใช้ที่มีประโยชน์และเพิ่มความน่ารัก

ที่รองแก้ว/รองจานผ้า: เย็บผ้าเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น วงกลม สี่เหลี่ยม หรือรูปทรงเรขาคณิตง่ายๆ อาจเสริมด้วยใยสังเคราะห์ด้านในเพื่อเพิ่มความหนาและช่วยซับน้ำ

ผ้าเช็ดมือ/ผ้าขนหนูแขวน: เย็บเศษผ้าขนหนูเหลือใช้เป็นผ้าเช็ดมือขนาดเล็ก อาจเย็บหูห้อยน่ารัก ๆ ด้วยผ้าลายอื่น

ถุงผ้าน่ารักๆ: เย็บถุงผ้าเล็กๆ สำหรับใส่ขนมปัง, ผลไม้, หรือใช้เป็นถุงของขวัญ

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการทำงานฝีมือจากผ้า:
เลือกเนื้อผ้าให้เหมาะสม: ผ้าคอตตอน ผ้าลินิน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความนุ่มนวลและไม่ยับง่าย ผ้าสักหลาดเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความอยู่ทรง

เตรียมเศษผ้าให้พร้อม: ซักและรีดเศษผ้าให้สะอาดและเรียบก่อนเริ่มงาน จะช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นและได้ผลงานที่ดูเรียบร้อย

เลือกสีและลายผ้าที่เข้ากัน: เพื่อให้ได้ผลงานที่สวยงามและเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านของคุณ

เริ่มต้นจากชิ้นเล็กๆ: หากเป็นมือใหม่ ลองทำชิ้นงานขนาดเล็กที่ไม่ซับซ้อนก่อน เพื่อฝึกฝีมือและสร้างความมั่นใจ

อย่ากลัวที่จะสร้างสรรค์: ปรับเปลี่ยนไอเดียให้เข้ากับความชอบและสไตล์ของคุณ อาจผสมผสานเทคนิคการเย็บ ปัก ถักร้อย หรือปะติดเข้าด้วยกัน

งานฝีมือจากผ้าเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยลดขยะจากเศษผ้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มความพิเศษให้กับบ้านของคุณด้วยของตกแต่งที่มีเรื่องราวและความหมายค่ะ

15
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


หน้า: [1] 2 3 ... 44
ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google