แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - airrii

หน้า: [1]
1


สมัยที่คุณตัวคนเดียวหรือคุณเป็นโสดวิธียื่นภาษีก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ซึ่งจะมีทางเลือกเพียงทางเดียว คือ ยื่นด้วยจำนวนรายได้ที่เรามี และหักลดหย่อนภาษี ตามสัดส่วนต่างๆ ให้ครบถ้วนก็สามารถคำนวณภาษีได้ แต่เมื่อแต่งงานมีคู่สมรสแล้วนั้น สามีภรรยาควรจะช่วยกันวางแผนภาษี เพราะการวางแผนภาษีที่ดีจะช่วยให้เสียภาษีถูกต้องและประหยัด ซึ่งวิธียื่นภาษีสำหรับคู่สมรถ จะมีด้วยกัน 3 วิธี คือ

1.แยกยื่นแบบแสดงรายการ
2.รวมยื่นแบบแสดงรายการ
3.แยกยื่นเฉพาะเงินเดือน

ส่วนเงินได้อื่นๆ นำไปยื่นรวมในนามอีกฝ่าย แล้วจะเลือกยื่นแบบไหนดี เรามีแนวทางในการพิจารณาเพื่อช่วยตัดสินใจในเรื่องนี้มาฝาก

วิธีที่ 1.แยกยื่นแบบแสดงรายการ
คู่สามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกัน สามารถแยกยื่นแบบการเสียภาษีได้ ต่างคนต่างยื่นแบบ จากรายได้ส่วนตัวของตนเองได้ ถ้ารายได้ของคู่สมรสอยู่ในฐานภาษีเดียวกัน ไม่ต้องนำรายได้มารวมกัน เช่น สามีมีรายได้สิทธิ 300,000 บาท ภรรยามีรายได้ 280,000 บาท ทั้งคู่จะอยู่ในฐานภาษี 5%  แต่ถ้านำรายได้มารวมกัน จะทำให้ฐานภาษีเพิ่มขึ้น จะเสียภาษีมากกว่าการแยกยื่น  การแยกยื่นการเสียภาษีสามารถใช้สิทธิหักค่าลดหย่อน และค่าใช้จ่ายแยกกันตามกฎหมายได้เลย วิธีนี้เหมาะกับกรณีที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีรายได้พอๆ กัน เสียภาษีในอัตราฐานภาษีที่ใกล้เคียงกัน และมีค่าลดหย่อนต่างๆ ใกล้เคียงกัน เมื่อแยกยื่นจะเป็นการกระจายภาษี ทำให้ต่างฝ่ายต่างเสียภาษีในอัตราที่เหมาะสม นอกจากนี้การแยกยื่นจะทำให้เกิดความสะดวกกับทั้ง 2 ฝ่าย หากไม่ต้องการให้อีกฝ่ายมายุ่งเกี่ยวในการบริหารเงินส่วนตัวของตนเอง

วิธีที่ 2.รวมยื่นแบบแสดงรายการ
คู่สามีภรรยาสามารถรวมเงินที่ได้รับทั้งหมดของทั้ง 2 ฝ่ายรวมเข้าด้วยกัน แล้วสามารถนำไปให้ฝ่ายสามีหรือฝ่ายภรรยาเป็นผู้ยื่นแบบ

วิธีที่ 3.แยกยื่นเฉพาะเงินเดือน
วิธีการแยกยื่นภาษีเฉพาะเงินเดือน สามารถทำได้ 2 แบบ คือ
1.ภรรยาแยกยื่นแบบภาษีเฉพาะเงินเดือนของตัวเอง ส่วนเงินได้อื่นๆ นำไปรวมกับเงินได้ของสามี แล้วยื่นภาษีรวมกันในนามสามี
2.สามีแยกยื่นแบบภาษีเฉพาะเงินเดือนของตัวเอง ส่วนเงินได้อื่นๆ นำไปรวมกับเงินได้ของภรรยา แล้วยื่นภาษีรวมดันในนามภรรยา
เงินได้อื่นๆ เช่น  ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่าบ้าน เงินรับจ้าง เป็นต้น วิธีนี้เหมาะกับคู่สมรสที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเงินเดือนมาก และมีรายได้จากทางอื่นด้วย แต่หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนในส่วนของเงินเดือนเต็มสิทธิทางกฎหมายแล้ว ทำให้รายได้อื่นที่เพิ่มมา นอกจากจะหักค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่ได้ ยังเป็นรายได้ส่วนเพิ่มที่ทำให้ฐานภาษีสูงขึ้น และต้องเสียภาษีมากขึ้น ก็สามารถยื่นแบบเฉพาะเงินเดือน และนำเงินได้อื่นๆ ไปรวมกับอีกฝ่ายที่มีรายได้น้อยกว่า และยังใช้สิทธิค่าลดหย่อน และค่าใช้จ่ายยังไม่เต็มสิทธิ ก็จะช่วยประหยัดภาษีได้มากกว่า เบี้ยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี



การลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกัน
นอกจากนี้เรามีวิธีที่ลงทุนแล้วคุ้มค่าอีกวิธีหนึ่งนั่นก็คือ การลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกัน สามารถทำได้หลายวิธีดังนี้
1.เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป รวมถึงประกันแบบสะสมทรัพย์
ผู้ที่ทำประกันชีวิตทั่วไป รวมถึงประกันแบบสะสมทรัพย์ สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยประกันต้องคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป

2.เบี้ยประกันสุขภาพตนเอง
ผู้ที่ทำประกันสุขภาพให้ตนเอง เบี้ยประกันสุขภาพตนเอง รวมถึงเบี้ยประกันคุ้มครองสุขภาพของตนเองสามารถนำมาใช้สิทธิประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สามารถขอลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปต้องไม่เกิน 100,000 บาท

3.เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
ผู้ที่ทำประกันสุขภาพให้บิดามารดา  ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท และสามารถรวมประกันสุขภาพพ่อแม่ของคู่สมรสมาลดหย่อนภาษีได้ ในกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้



เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
ผู้ที่ทำประกันบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้รวมทั้งปี และต้องไม่เกิน 200,000 บาท หรือต้องไม่เกิน 300,000 บาท หากไม่มีการลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันชีวิต และเมื่อรวมกับหมวดการลงุทนเพื่อการเกษียณแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท

คู่สามี-ภรรยาที่กำลังตัดสินใจว่า ควรยื่นภาษีแบบไหนที่ช่วยให้คุ้มค่าและประหยัดภาษีได้มากกว่า คงพอมีแนวทางในการพิจารณาแล้ว โดยให้ดูที่ประเภทของรายได้ และรายได้ทั้งปีของทั้งคู่เป็นหลัก ทั้งนี้การลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันก็ถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ ทางไทยประกันชีวิตของเราก็มี

2


วิธีเลือกประกันชีวิตแบบไหนดี ถึงเหมาะกับผู้มีรายได้น้อย? แม้จะมีรายได้น้อยแต่เราก็สามารถเลือกประกันชีวิต เสียชีวิตทุกกรณี ที่เหมาะสมกับตัวเองได้ โดยการคำนวณและประเมินข้อมูลต่างๆ ดังนี้

1. ตั้งงบประมาณที่ต้องการ
อย่างแรกที่เราต้องทำก่อนการเลือกซื้อประกันชีวิตก็คือ การตั้งงบประมาณที่ต้องการเอาไว้ เพื่อให้เราจำกัดตัวเลือกของแผนประกันให้แคบลงได้ และทำให้สามารถเลือกได้ง่ายขึ้น

2. ประเภทของประกันชีวิต
หนึ่งในขั้นตอนที่ทำสำคัญที่สุดของการซื้อประกันชีวิต คือ การเลือกประเภทของประกันชีวิต ซึ่งปัจจุบันประกันชีวิตมีหลากหลายประเภท ทั้งด้านความคุ้มครองและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เราจึงควรเลือกประเภทประกันชีวิตที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ และรายได้หลักของเรา โดยประกันชีวิตนั้นแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
ประกันประเภทนี้เหมาะสำหรับ ผู้มีรายได้น้อย เพราะมีเบี้ยประกันไม่สูง แต่การคุ้มครองของประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาจะคุ้มครองให้แก่ผู้เอาประกันซึ่งเสียชีวิตภายในเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น เช่น 5 ปี 10 ปี  20 ปี หมายความว่าคนทำประกัน จะได้ผลประโยชน์ก็ต่อเมื่อเสียชีวิตเท่านั้น ถ้าครบกำหนดตามสัญญาแล้วยังมีชีวิตอยู่ จะไม่ได้รับเงินคืนใดๆ ทั้งสิ้น

ประกันแบบตลอดชีพ
เป็นประกันชีวิตที่เน้นคุ้มครองในระยะยาว โดยจะจ่ายเบี้ยประกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น 5 ปี 10 ปี 15 ปี หรือ 20 ปี และให้ความคุ้มครองตลอดชีพ หรือจนถึงอายุ 99 ปี ขึ้นกับแต่ละแผนประกันโดยตลอดระยะเวลาจะไม่ได้เงินคืน ประกันชีวิตประเภทนี้จึงเหมาะจะทำไว้เป็นเงินก้อนให้กับลูกหลาน เพื่อเป็นหลักประกันว่าครอบครัวจะไม่ลำบากเมื่อจากไปนั่นเอง



ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์
เป็นประกันชีวิตที่ที่ให้ความคุ้มครองพร้อมมีการออมเงินเข้ามาเกี่ยวด้วย โดยจะมีทั้งแบบระยะสั้น กลาง ยาว จุดเด่นอยู่ที่เป็นการออมเงินพร้อมกับได้ความคุ้มครองเพิ่มไปด้วยพร้อมๆ กัน

ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ
ประกันชีวิตประเภทนี้ ทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้กับผู้เอาประกันอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน นับแต่ผู้เอาประกันภัยเกษียณอายุ หรืออายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี เป็นต้นไป แล้วแต่เงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้

3. เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ
เลือกประกันชีวิตจากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งด้านชื่อเสียง และหลักความคุ้มครองต่างๆ เพื่อที่เราจะสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และไม่เสี่ยงต่อการถูกช่อโกงจากบริษัทที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ

4. ระยะเวลาการชำระต้องเหมาะสม
ยิ่งมีรายได้ไม่ได้สูง เรายิ่งจำเป็นต้องดูระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันที่มีความเหมาะสมกับความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยประกันของเราให้มากที่สุด โดยระยะเวลาการชำระมีทั้งแบบราย 3 เดือน ราย 6 เดือน รวมถึงการจ่ายแบบรายได้

5. เลือกซื้อประกันผ่านออนไลน์
อีกข้อสำคัญในการเลือกซื้อประกันชีวิต สำหรับผู้มีรายได้น้อย คือการเลือกซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะทำให้เรามีสามารถศึกษาข้อมูลได้อย่างละเอียด ได้ข้อมูลที่หลากหลาย และยังมีเวลาให้เราได้ไตร่ตรองอย่างไม่จำกัดอีกด้วย เพื่อให้สามารถเลือกประกันที่เหมาะสมกับรายได้และตัวเรามากที่สุด

การทำประกันชีวิตนั้นสำคัญมากสำหรับทุกคน เพราะไม่รู้เลยว่าเราจะเจอกับอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยขึ้นมาในวันใด และไม่ว่าราจะมีรายได้มากหรือน้อยก็สามารถเลือกทำประกันได้ เพียงแค่ศึกษาข้อมูลและเลือกแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมกับรายได้ของเราเท่านั้นเอง


3



    1. ความสูงที่เหมาะสม
    ควรเลือกใช้สุขภัณฑ์ที่มีความสูง 40-45 ซม. เพราะเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป เด็ก ผู้สูงอายุ ไปจนถึงผู้ที่ใช้วีลแชร์ เนื่องจากขณะใช้งานผู้ใช้งานจะนั่งลงบนโถสุขภัณฑ์ และเหยียบพื้นได้เต็มเท้าพอดี

    2. รูปทรงโถสุขภัณฑ์
    สำหรับรูปทรงโถสุขภัณฑ์ที่นั่งสบาย ควรเลือกใช้ทรงวงรี หรือทรงอีลองเกตที่เป็นทรงมาตรฐาน รองรับสรีระร่างกายได้อย่างเหมาะสม

    3. ระบบชำระล้าง
    ควรเลือกระบบชำระล้างที่ทำความสะอาดได้หมดจด ไม่เหลือคราบสิ่งสกปรกตกค้าง ซึ่งจะช่วยเรื่องการประหยัดน้ำได้โดยตรง เพราะในสุขภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้ต้องกดชำระหลาย ๆ ครั้ง เป็นการสิ้นเปลืองน้ำโดยไม่จำเป็น ซึ่งเรื่องระบบชำระล้าง และความประหยัดน้ำ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาคู่กัน

    4. เลือกสุขภัณฑ์ที่ดูแลง่าย
    เพราะสิ่งสกปรก เชื้อโรคและเชื้อไวรัสที่มองไม่เห็นนั้นมีอยู่ทุกที่ โดยเฉพาะบนโถชักโครก ดังนั้นควรเลือกชุดชักโครกที่ทำความสะอาดง่าย สะอาดได้อย่างยาวนาน ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง เพื่อปกป้องทุกคนในครอบครัวจากเชื้อโรค และลดการสัมผัสสารเคมีจากน้ำยาล้างห้องน้ำได้อีกด้วย

    5. เลือกแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก
    เพราะแบรนด์ที่มีชื่อเสียง จะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลการใช้งานได้มากขึ้น รวมถึงยังได้รับบริการที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษาด้านการเลือกซื้อ ไปจนถึงบริการติดตั้ง และบริการหลังการขายที่ครอบคลุม จึงช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้เครื่องสขภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ใช้งานได้อย่างยาวนาน



ประเภทโถสุขภัณฑ์ห้องน้ำของ TOTO
    1. โถสุขภัณฑ์ชิ้นเดียว
    มีจุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์และทำความสะอาดง่าย เนื่องจากโถส้วมถูกเชื่อมกับถังพักน้ำแบบไร้รอยต่อ ช่วยให้ติดตั้งและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

    2. โถสุขภัณฑ์แบบสองชิ้น
    โถชักโครกประเภทนี้ จะมีรอยต่อระหว่างตัวโถส้วมและถังพักน้ำ ซึ่งหากถังพักน้ำมีความเสียหาย มีรอยร้าว ก็สามารถเปลี่ยนอะไหล่เฉพาะส่วนได้โดยง่าย

    3. โถสุขภัณฑ์แขวนผนัง
    การติดตั้งโถแบบนี้จะช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเป็นพิเศษ เพราะโถชักโครกไม่อยู่ติดกับพื้นแต่จะแขวนอยู่กับผนังแทน ดังนั้นผนังบ้านต้องรับน้ำหนักได้ดี และมีระยะท่อตามที่กำหนดไว้อย่างได้มาตรฐาน จึงจะสามารถติดตั้งได้

    4. โถสุขภัณฑ์ตั้งพื้น
    โถลักษณะนี้จะมีหม้อน้ำซ่อนผนังหรือใช้ฟลัชวาล์วซ่อนผนัง สามารถรับน้ำหนักได้มากเพราะมีฐานที่มั่นคง อีกทั้งการที่ไม่เห็นถังพักน้ำ ยังช่วยทำให้ห้องน้ำของคุณดูโดดเด่น มีสไตล์มากยิ่งขึ้น



จุดเด่นของโถสุขภัณฑ์ห้องน้ำ TOTO
สิ่งสำคัญที่สุดของโถสุขภัณฑ์ คือความสะอาด หากไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ อาจก่อให้เกิดคราบสกปรก จนกลายเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคและแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้งานได้ ด้วยเหตุนี้ TOTO จึงได้พัฒนาสาร CEFIONTECT ซึ่งเป็นสารชนิดพิเศษที่ทำให้ผิวิุปกรณ์ชักโครกเรียบลื่น ทำความสะอาดง่าย ช่วยลดความถี่ในการทำความสะอาด และลดการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ ซึ่งถือเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

นอกจากความสะอาดแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการประหยัดน้ำ TOTO จึงได้พัฒนาระบบชำระล้างที่เรียกว่า TORNADO FLUSH โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการชำระล้างด้วยกระแสน้ำที่แรง และหมุนวนครบ 360 องศา ทำให้โถสุขภัณฑ์สะอาดทั่วทุกทิศทางด้วยปริมาณน้ำที่น้อยลง โดยสุขภัณฑ์ของ TOTO ใช้น้ำน้อยที่สุดเพียง 3.8 ลิตรเท่านั้น ถือเป็นตัวช่วยประหยัดน้ำและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย



ไม่เพียงแต่การเคลือบสาร CEFIONTECT และระบบชำระล้าง TORNADO FLUSH เท่านั้นที่เป็นจุดเด่นของเรา แต่ TOTO ยังออกแบบ "สุขภัณฑ์แบบขอบโถไร้ขอบ" (RIMLESS) ซึ่งแตกต่างจากโถแบบทั่วไป ที่ไม่มีจุดอับทำให้ไม่เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรก อีกทั้งยังสามารถช่วยให้การทำความสะอาดสามารถเข้าถึงได้ทุกซอกทุกมุม




4


โรคมะเร็ง หลายคนได้ยินคงจะมีความกลัวกันไม่น้อย เพราะว่าในประเทศไทยโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายติดอันดับหนึ่งหลายปีติดต่อกัน ทำประกันมะเร็ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งโรคมะเร็งนั้น เป็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์ ที่มีความผิดปกติในร่างกาย การเจริญเติบของเซลล์เหล่านี้ มีลักณษะการแบ่งตัว และโตอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เซลล์สามารถลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง โดยผ่านระบบน้ำเหลือง หรือผ่านกระแสเลือด ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว จนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

องค์กรอนามัยโลก พบว่าโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของประชาคมโลกปีละกว่าสิบล้านคนซึ่งในจำนวนนี้มีคนอายุระหว่าง 30-69 ปี สะท้อนถึงแนวโน้มการเกิดโรคมากขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงาน



สืบเนื่องมาจากวิถีการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต

โรคมะเร็งที่พบมากในคนไทย
สำหรับโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในคนไทย ได้แก่
    *มะเร็งปากมดลูก พบมากในผู้หญิงอายุระหว่าง 35 – 50 ปี
    *มะเร็งรังไข่ พบมากในผู้หญิงอายุระหว่าง 40-60 ปี และในเด็กก่อน หรือหลังวัย 10 ปี
    *มะเร็งเต้านม พบมากในผู้หญิงอายุระหว่าง 45 – 50 ปี
    *มะเร็งตับ พบมากในคนไทยที่มีความเกี่ยวข้อง กับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และซี รวมทั้งเป็น โรคตับแข็ง
    *มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ พบในผู้ชายมากกว่าในผู้หญิงได้ถึงประมาณ 3 เท่า สำหรับผู้ชายพบได้สูงในช่วงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป และในผู้หญิงพบได้สูงในช่วงอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป
    *มะเร็งในกล่องเสียง พบได้มากในผู้สูงอายุ ที่มีอายุระหว่าง 60 – 70 ปี
    *มะเร็งกระเพาะอาหาร พบในผู้ชายมากกว่าในผู้หญิงประมาณ 3 เท่า และมักพบในช่วงอายุ 60-70 ปี มะเร็งลำไส้ใหญ่ พบมากทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป แต่อาจพบในเด็กโตก็ได้

สำหรับผู้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าเราควรจะซื้อประกันมะเร็งตอนไหนดี มันจำเป็นจริงๆ หรอ ลองมาพิจารณากันว่ามีปัจจัยเสี่ยงตรงกับตัวคุณกี่ข้อ



ปัจจัยเสี่ยงด้านพันธุกรรม
คนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็ง เช่น มะเร็งของจอตา มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดที่ เป็นติ่งเนื้อ เป็นต้น

ปัจจัยเสี่ยงด้านอายุ อายุมากขึ้นก็มีโอกาสเกิดมะเร็งได้มากขึ้น ส่วนใหญ่โรคมะเร็งจะเกิดกับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
ปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรม
    *มีพฤติกรรมการใช้ชีวิต มีความเครียดสูง พักผ่อนน้อย
    *มีพฤติกรรมชอบทานอาหารทอด ปิ้งย่าง และแปรรูป เป็นประจำ ก็จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เต้านม ลำไส้ใหญ่ เยื่อบุมดลูก และต่อมลูกหมากได้
    *สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด มะเร็งตับตับ ถ้าทั้งดื่มสุราและสูบบุหรี่จัด จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ช่องปากและในลำคอด้วย
    *มีการสัมผัส หรืออยู่ใกล้แหล่งที่มีสารพิษสูง

อย่างไรก็ตาม การมีปัจจัยเสี่ยงไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็งเสมอไปขณะเดียวกันผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงก็สามารถเป็นมะเร็งได้เช่นกัน โรคมะเร็งใครๆ ก็คงไม่อยากเป็น นอกจากจะทรมานตนเองแล้ว ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็ไม่น้อยเลย บางรายไม่แสดงอาการให้เห็น ดังนั้นทางที่ดีเราควรตรวจสุขภาพ และตรวจคัดกรองมะเร็งตามอายุอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
ซื้อประกันสุขภาพ เบี้ยประกันสุขภาพสามารถลดหย่อนภาษีได้บางส่วน(3)




5



ฝักบัว rain shower เป็นอีกตัวเลือกที่คนรุ่นใหม่เลือกติดตั้งไว้ในห้องน้ำที่บ้าน เพราะนอกจากความสบายที่ร่างกายจะได้รับจากสายน้ำที่ปล่อยออกมาในแต่ละครั้งที่ใช้งานแล้ว ฝักบัวอาบน้ำประเภทนี้ก็ยังมีดีไซน์ที่ตอบโจทย์การตกแต่งห้องน้ำในยุคนี้ที่เน้นสไตล์โมเดิร์นทันสมัย ด้วยความสบายของฝักบัว Rain Shower นี้เองจึงช่วยเพิ่มความสดชื่นในเช้าวันใหม่ หรือช่วยผ่อนคลายวันอันเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี TOTO จึงอยากให้ทุกคนได้รู้จักกับฝักบัวอาบน้ำประเภทนี้ให้มากขึ้น พร้อมด้วยข้อควรรู้ก่อนติดตั้งฝักบัวเรนชาวเวอร์ที่บ้านคุณ

TOTO ได้พัฒนาฝักบัวอาบน้ำให้มีรูปแบบสายน้ำและแรงดันน้ำที่ช่วยเพิ่มความสบายตัวให้กับผู้ใช้งาน และสร้างความผ่อนคลายในแต่ละวันได้มากกว่าฝักบัวทั่วไป

    WARM SPA เป็นลำน้ำที่ถูกปล่อยออกมาเคลือบร่างกายของผู้ใช้งานฝักบัวขณะอาบน้ำ โดยไม่มีน้ำกระจายออกจากร่างกายหรือกระเซ็นออก ทำให้ร่างกายได้รับอุณภูมิจากน้ำอย่างเต็มที่ ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายเพลิดเพลินได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
    COMFORT WAVE เป็นรูปแบบสายน้ำของฝักบัวที่ถูกปล่อยออกมาควบคู่กับหัว Jet ที่ช่วยเพิ่มขนาดสายน้ำ เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยสายน้ำที่ไหลผ่านเส้นผมได้อย่างทั่วถึง
    ACTIVE WAVE นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายตัวมากยิ่งขึ้น เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างเกลียวน้ำขนาดใหญ่และทรงพลังกว่าฝักบัวทั่วไป
    AERIAL SHOWER เทคโนโลยีที่นำอากาศเข้าไปผสมกับน้ำในฝักบัว เป็นเทคโนโลยีที่ใช้น้ำเพียง 6.5 ลิตรต่อนาที ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้เป็นอย่างดี ช่วยประหยัดน้ำได้มากขึ้นถึง 35% เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้น้ำในฝักบัวปกติ โดยน้ำจากฝักบัวยังสัมผัสร่างกายได้อย่างเต็มที่
    ฟังก์ชันอื่น ๆ อีก 5 รูปแบบ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานฝักบัวเพลิดเพลินและสนุกสนานกับสายน้ำหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ MODE, RAIN & MASSAGE MODE, MASSAGE MODE, SPRAY MODE, RAIN & SPRAY MODE



คุณสมบัติของฝักบัวอาบน้ำที่มีคุณภาพ

1. ฝักบัวที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพ
ฝักบัวอาบน้ำที่ได้คุณภาพควรผลิตจากวัสดุมาตรฐาน เช่น สเตนเลส ทองเหลืองและพลาสติก ซึ่งวัสดุที่ใช้ก็ส่งผลต่อความทนทานและการกัดกร่อน

2. เทคโนโลยีภายในสินค้า
ฝักบัวอาบน้ำที่มีคุณภาพควรมีแรงดันน้ำที่อยู่ในระดับมาตรฐานเพื่อสร้างความสบายตัว และมีสายน้ำหลากหลายรูปแบบให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้

3. ความทนทานตลอดอายุการใช้งานของฝักบัว
ฝักบัวอาบน้ำที่ดีควรมีอายุการใช้งานยาวนาน ทนทาน ทำความสะอาดคราบน้ำได้ง่าย

4. มีซีลยางที่ตัวก๊อก
ฝักบัวอาบน้ำควรมีซีลยาง และแหวนยางในตัวก๊อกเพื่อป้องกันการรั่วซึม อีกทั้งหัวก๊อกควรมีการป้องกันสายบิดงออีกด้วย

คุณสมบัติการใช้งานของฝักบัวอาบน้ำ
คุณสมบัติของฝักบัวถือเป็นเรื่องสำคัญที่ควรคำนึงถึง เพราะฟังก์ชันต่าง ๆ ของฝักบัว เช่น รูปแบบสายน้ำและแรงดันน้ำ เป็นส่วนประกอบหลักที่สร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ใช้งานโดยตรง จึงควรเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้งาน
เลือกดีไซน์ของฝักบัวที่เหมาะกับห้องน้ำ



ก่อนเลือกซื้อฝักบัวควรดูรูปแบบการตกแต่งห้องน้ำเสียก่อน ซึ่งเป็นตัวช่วยในการเลือกดีไซน์ของฝักบัวให้เข้ากับสไตล์การตกแต่ง และอย่าลืมวัดขนาดห้องน้ำเพื่อช่วยให้เลือกขนาดฝักบัวให้พอดีกับขนาดห้องน้ำอีกด้วย

เลือกฝักบัวที่คำนึงถึงคนในครอบครัว
เพราะห้องน้ำเป็นห้องสำหรับทุกคนในครอบครัวจึงควรคำนึงถึงสมาชิกภายในครอบครัว แม้แต่การเลือกฝักบัวก็เช่นกัน ควรเลือกฝักบัวที่เข้ากับทั้งเด็กและผู้สูงอายุ เช่น ฝักบัวแบบสายอ่อนที่มาพร้อมกับราวเลื่อนแบบปรับระดับได้ เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัย

ฝักบัวที่ช่วยประหยัดน้ำ
ควรเลือกฝักบัวรุ่นประหยัดน้ำ ชุดฝักบัวอาบน้ำ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะฝักบัวที่มีเทคโนโลยีประหยัดน้ำแต่ยังคงความแรงอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ฝักบัวอาบน้ำคุณภาพ คุ้มราคา
ราคาของฝักบัวนั้นขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ คุณภาพ และราคาจึงขึ้นอยู่กับวัสดุรวมไปถึงขนาด และฟังก์ชันของฝักบัว

6


ทำประกันทั้งทีถ้าสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วย ก็เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะได้ทั้งความคุ้มครอง และยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่หลายๆ คนคงกำลังจัดระเบียบการใช้จ่ายของตัวเองและเตรียมเอกสารต่างๆ สำหรับเทศกาลลดหย่อนภาษีปลายปีที่ใกล้เข้ามา แต่หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะต้องซื้อประกันประเภทไหนที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ มีเงื่อนไขเพิ่มเติมอะไรอีกหรือไม่ และจะสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดเท่าไหร่ วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาไว้ให้แล้ว

ประเภทของประกันลดหย่อนภาษีได้
1.ประกันชีวิต ประกันชีวิตทั่วไป ลดหย่อนภาษีได้

ประกันที่เน้นให้ความคุ้มครองแก่ผู้ทำประกัน ในกรณีที่เสียชีวิตจากเหตุไม่คาดคิดก็จะได้รับเงินชดเชยตามวงเงินคุ้มครอง มีหลายรูปแบบ เช่น ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
- ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ และ ประกันชีวิตควบการลงทุน

โดยสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด
100,000 บาทตามจำนวนที่จ่ายจริง หรือหากจะนับรวมเงินฝากแบบมีประกันด้วยก็ต้องไม่เกิน
100,000 บาท และใครที่มีคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ ซึ่งไม่ได้เพิ่งสมรสภายในปีนี้ ก็สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท เช่นเดียวกัน

เงื่อนไขการนำประกันชีวิตทั่วไปมาลดหย่อนภาษี
- ต้องเป็นกรมธรรม์ที่มีระยะคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- จัดทำกับบริษัทประกันในประเทศไทย
- หากมีการจ่ายเงินปันผลหรือเงินชดเชย จะต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันชีวิตรายปี
- ต้องแจ้งต่อบริษัทว่าต้องการนำไปลดหย่อนภาษี



ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันลดหย่อนภาษีได้
ประกันที่ให้ความคุ้มครองรายได้หลังเกษียณ จะเน้นที่ผลตอบแทนเป็นหลัก เพื่อเป็นหลักประกันรายได้ในยามที่คุณเลิกประกอบอาชีพแล้วนั่นเอง
โดยประกันในรูปแบบนี้จะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
15% ของรายได้ (เงินได้ที่ต้องเสียภาษี) สูงสุดไม่เกิน
20,000 บาท หรืออาจลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน
300,000 บาท เมื่อยังไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป และเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- RMF, กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน
- กบข. และ กองทุนการออมแห่งชาติ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท

นั่นหมายความว่าหากคุณยังใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป ไม่ถึงเพดานสูงสุด 100,000 บาท คุณสามารถนำเบี้ยประกันบำนาญบางส่วนไปหักลบจนครบ 100,000 บาท ก่อนจะนำมาคำนวณหักลบกับ 15% ของรายได้ เป็นส่วนที่สอง

เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของประกันชีวิตแบบบำนาญคือ
- ต้องเป็นกรมธรรม์ที่มีระยะคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- จัดทำกับบริษัทประกันในประเทศไทย
- จ่ายผลประโยชน์เป็นงวดจำนวนเงินเท่ากัน หรือในสัดส่วนที่มากขึ้น เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
- ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันครบถ้วนก่อนที่จะได้รับผลประโยชน์
- กำหนดช่วงอายุการจ่ายผลประโยชน์ตั้งแต่ 55 - 85 ปี
- ต้องแจ้งต่อบริษัทว่าต้องการนำไปลดหย่อนภาษี



2.ประกันสุขภาพ ประกันสุขภาพตนเอง ลดหย่อนภาษีได้

รูปแบบประกันที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ คือประกันที่คุ้มครองอาการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ มีการชดเชยการทุพพลภาพและการสูญเสียอวัยวะเนื่องจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ
- ประกันอุบัติเหตุเฉพาะ ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะและการแตกหักของกระดูก
- ประกันโรคร้ายแรง และ ประกันการดูแลระยะยาว
โดยสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป และเงินฝากแบบมีประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท

เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของประกันสุขภาพตนเองคือ
- จัดทำกับบริษัทประกันในประเทศไทย
- ต้องแจ้งต่อบริษัทว่าต้องการนำไปลดหย่อนภาษี

ซื้อประกันให้พ่อแม่ ลดหย่อนภาษีได้
ในกรณีที่คุณจ่ายเบี้ยประกันให้กับพ่อแม่ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน
15,000 บาท ในกรณีที่คู่สมรสไม่มีเงินได้ สามารถนำเบี้ยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีของพ่อแม่ของคู่สมรสมาลดหย่อนในจำนวนสูงสุดไม่เกิน
15,000 บาท ได้เช่นกัน หรือหากมีการร่วมกันจ่ายกับพี่น้อง ก็สามารถนำมาหารเฉลี่ยตามจำนวนพี่น้องได้เช่นกัน

เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของประกันสุขภาพของพ่อแม่คือ
- ต้องมีความสัมพันธ์เป็นลูกแท้ๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
- ในกรณีลูกบุญธรรมจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
- พ่อแม่มีรายได้ต่อปีภาษีไม่เกิน 30,000 บาท
- ตัวผู้ลดหย่อนหรือพ่อแม่ต้องอยู่ในประเทศไทยครบ 180 วันภายในปีภาษี

การมีประกันชีวิตที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้จะช่วยให้คุณสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะกับมนุษย์เงินเดือนและผู้ที่มีรายได้ประจำ ก็ควรมองหาตัวเลือกที่สามารถทำให้คุณมีทั้งความคุ้มครองด้านสุขภาพ และสิทธิในการลดหย่อนภาษี




7


เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เป็นสุขภัณฑ์ที่ต้องใช้งานทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือ ล้างหน้า หรือแปรงฟัน ดังนั้นก่อนเลือกซื้อทุกครั้ง จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงการใช้งาน รูปแบบของเคาน์เตอร์หรือตำแหน่งที่ติดตั้ง สไตล์การตกแต่ง และขนาดของห้องน้ำ เพื่อให้ได้อ่างล้างหน้าที่เข้ากับบ้าน และการใช้งานในชีวิตประจำวันของเราได้มากที่สุด

ประเภทของอ่างล้างหน้าของ TOTO

    1. อ่างล้างหน้าวางบนเคาน์เตอร์
    อ่างล้างหน้าเคาน์เตอร์เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นความสะดวก ทั้งการติดตั้ง การทำความสะอาด และการซ่อมแซม เนื่องจากติดตั้งแยกจากเคาน์เตอร์ อ่างชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถตกแต่งให้เข้ากับห้องน้ำได้ทุกรูปแบบ และยังช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องน้ำได้ แต่ควรติดตั้งในห้องน้ำที่มีพื้นที่มากพอสมควร เพราะเคาน์เตอร์อาจจะทำให้ห้องน้ำดูมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม

   2. อ่างล้างหน้าแบบฝังครึ่งเคาน์เตอร์
    เหมาะสำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่น้อย เพราะแบบฝังครึ่งเดียวจะใช้เคาน์เตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าแบบฝังด้านบนและใต้เคาน์เตอร์ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของดีไซน์ให้ห้องน้ำดูมีลูกเล่นและมีสไตล์ที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

    3. อ่างล้างหน้าฝังบนเคาน์เตอร์ และอ่างล้างหน้าฝังใต้เคาน์เตอร์
    เหมาะกับห้องน้ำที่มีเนื้อที่กว้างขวาง เพราะต้องใช้พื้นที่สำหรับวางตัวเคาน์เตอร์ เมื่อฝังอ่างล้างหน้าลงไปแล้วก็จะเหลือพื้นที่รอบอ่างเป็นที่วางของ นอกจากจะมีที่วางของใช้ส่วนตัวแล้ว การติดตั้งอ่างประเภทนี้ ยังมีความแข็งแรง ทนทาน และดูเรียบหรู บ่งบอกรสนิยมของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี

    4. อ่างล้างหน้าแขวนผนัง
    เป็นอ่างที่เหมาะกับห้องน้ำที่มีพื้นที่น้อย เช่น คอนโดมิเนียม เพราะมีขนาดกะทัดรัด ติดตั้งได้ง่าย TOTO ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของห้องน้ำที่มีพื้นที่ขนาดจำกัดจึงได้ผลิตอ่างล้างหน้าแขวนผนังที่มาพร้อมกับตู้เก็บของเพื่อให้เก็บของใช้ได้มากขึ้น ตอบโจทย์ห้องน้ำขนาดเล็กได้อย่างลงตัว


เทคนิคในการเลือกซื้ออ่างล้างหน้าและชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า

    1. ประเภทอ่างล้างหน้า
    ควรเลือกประเภทให้เข้ากับประเภทห้องน้ำที่จะติดตั้ง เช่น ชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเหมาะสำหรับห้องน้ำขนาดใหญ่ที่แบ่งโซนเปียก-แห้ง อ่างล้างหน้าแขวนผนัง หรืออ่างล้างหน้าพร้อมขาตั้งลอยเหมาะสำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัดอย่างห้องน้ำในคอนโดมิเนียม

    2. ความสูงของอ่างล้างหน้า
    ควรเลือกใช้งานอ่างที่มีความสูงเหมาะสมประมาณ 75 ซม. เหมาะสำหรับความสูงของบุคคลทั่วไป และยังเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้วีลแชร์ด้วย เพราะหากติดตั้งสูงประมาณ 80 ซม. หรือมากกว่านั้นจะสูงเกินการกว่าระดับการใช้งานของผู้ใช้วีลแชร์

    3. วัสดุที่ใช้ผลิต
    ควรเลือกวัสดุที่มีความทนทานอย่างเซรามิก ซึ่งใช้งานได้อย่างยาวนาน ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

ยิ่งกว่านั้นสำหรับใครที่ชอบเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มีพื้นผิวด้าน แต่ยังกังวลในเรื่องของการทำความสะอาด หรือกลัวว่าคราบสกปรกจะเกาะติดง่าย TOTO ได้พัฒนาเทคโนโลยี CLEAN MATTE ที่มีคุณสมบัติในการเคลือบผิวเซรามิกแบบเนื้อด้านแต่ยังคงไว้ซึ่งพื้นผิวที่เรียบลื่น ทำให้สามารถกำจัดสิ่งสกปรกออกได้อย่างง่ายดาย หากกำลังมองหาอ่างล้างหน้ารูปแบบต่าง ๆ ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษและนวัตกรรมความสะอาดที่ไม่เหมือนใคร สามารถเลือกชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้าได้ที่เบอร์ 02-026-3561

หน้า: [1]
ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google